📆 ปฏิทินการสมัครสอบ ก.พ. ปี 2568: โอกาสสำคัญสำหรับการเริ่มต้นสายงานราชการ
1. บัตรประจำตัวสอบ: เอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันสิทธิ์การสอบ ห้ามลืมหรือทำหายเด็ดขาด บัตรประจำตัวประชาชน: หรือเอกสารที่มีเลขประจำตัว
2. ประชาชน 13 หลัก เช่น บัตรเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งต้องมีรูปถ่ายและลายมือชื่อที่ชัดเจน
อุปกรณ์ที่จำเป็น: ได้แก่ ปากกา ยางลบ
ดินสอ 2B หรือเข้มกว่า
และกบเหลาดินสอที่ไม่ใช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
3. สิ่งของจำเป็นเพิ่มเติม: หากจำเป็นต้องนำกุญแจรถ รีโมตรถยนต์หรือกระเป๋าเงินเข้าห้องสอบ
ให้ใส่ในถุงพลาสติกใสที่เตรียมมาเอง
💡ความสำคัญของการสอบ ก.พ.
การสอบ ก.พ. ถือเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่ทุกคนที่ต้องการทำงานในสายงานราชการต้องผ่าน โดยเน้นการวัดความรู้ความสามารถในหลาก
หลายด้าน เช่น การคิดวิเคราะห์ ความสามารถทางภาษาไทย และความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ราชการ นอกจากนี้ การสอบยังเป็นมาตรฐาน
ที่ช่วยยกระดับคุณภาพบุคลากรในระบบราชการ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สอบผ่านมีความสามารถและคุณสมบัติที่เหมาะสมในการรับผิดชอบหน้าที่ที่
สำคัญในภาครัฐ
*** ทั้งนี้ผู้สมัครสามารถสมัครสอบได้ทั้ง 2 แบบ ***
📍กำหนดการสำคัญที่ควรทราบ
การสอบ ก.พ. ถือเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่ทุกคนที่ต้องการทำงานในสายงานราชการต้องผ่าน โดยเน้นการวัดความรู้ความสามารถในหลาก
หลายด้าน เช่น การคิดวิเคราะห์ ความสามารถทางภาษาไทย และความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ราชการ นอกจากนี้ การสอบยังเป็นมาตรฐาน
ที่ช่วยยกระดับคุณภาพบุคลากรในระบบราชการ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สอบผ่านมีความสามารถและคุณสมบัติที่เหมาะสมในการรับผิดชอบหน้าที่ที่
สำคัญในภาครัฐ
เปิดระบบกรอกข้อมูลล่วงหน้า (ไม่ใช่การสมัครสอบ):
วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2568
รับสมัครสอบแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam): 🖥️
วันที่ 8 - 28 มกราคม 2568
รับสมัครสอบแบบกระดาษ (Paper & Pencil):📝
วันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
อย่าลืมตรวจสอบเอกสารและข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อไม่พลาดโอกาสสำคัญนี้!
📝เนื้อหาและการสอบในปี 2568
การสอบ ก.พ. ภาค ก จะแบ่งออกเป็น 3 วิชา ดังนี้:
1. วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ (คณิตศาสตร์และภาษาไทย)
ข้อสอบ 50 ข้อ (100 คะแนน)
เนื้อหา: การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา (ภาษาไทย), การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม (คณิตศาสตร์), และการคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ
เกณฑ์ผ่าน: คะแนน
60% สำหรับ ปวช./ปวส./ป.ตรี และ 65% สำหรับ ป.โท
2. วิชาความสามารถทางภาษาอังกฤษ
ข้อสอบ 25 ข้อ (50 คะแนน)
เนื้อหา: Grammar, Conversation, Vocabulary, Reading
เกณฑ์ผ่าน: คะแนน 50% สำหรับทุกระดับการศึกษา
3.วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี (กฎหมาย)
ข้อสอบ 25 ข้อ (50 คะแนน)
เนื้อหา: ประมวลกฎหมายและระเบียบสำคัญในหน้าที่
ราชการ
เกณฑ์ผ่าน: คะแนน 50% สำหรับทุกระดับการศึกษา
🗞️ ภาคการสอบเพิ่มเติม
1.ภาค ก: การวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
2.ภาค ข: การวัดความสามารถเฉพาะตำแหน่ง
3.ภาค ค: การสอบสัมภาษณ์และการทดสอบจิตวิทยา
🪄 เคล็ดลับเตรียมตัวสอบ ก.พ. ให้พร้อม
ฝึกทำโจทย์เก่า: ข้อสอบ ก.พ. มักมีเนื้อหาคล้ายเดิม การฝึกทำโจทย์ซ้ำช่วยเพิ่มความคุ้นเคย
จับเวลาทำข้อสอบ: การบริหารเวลาในห้องสอบเป็น
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
อ่านเนื้อหาอย่างละเอียด: โดยเฉพาะกฎหมายและระเบียบราชการ
ทำแบบทดสอบออนไลน์: เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น
มีแนวข้อสอบให้ฝึก
⏰ การแบ่งเวลาทบทวนเนื้อหา
การแบ่งเวลาทบทวนเนื้อหาสำหรับการเตรียมสอบ ก.พ. เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุม
เนื้อหาที่จะสอบได้ครบถ้วน ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับการแบ่งเวลาและจัดตารางการทบทวน
1. วิเคราะห์เนื้อหาที่ต้องเตรียม
เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดที่ต้องสอบ ก.พ. แบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วนหลัก:
2. จัดตารางการเรียนที่เหมาะสม
แบ่งเวลาเป็นช่วงสั้น ๆ: ทบทวนครั้งละ 25-50 นาที แล้วพัก 5-10 นาที (เรียกว่า Pomodoro Technique) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจดจำ
จัดสรรเวลาเฉพาะสำหรับแต่ละวิชา:
ตัวอย่างเช่น:
วันจันทร์: คณิตศาสตร์ 2 ชั่วโมง + ภาษาอังกฤษ 1 ชั่วโมง
วันอังคาร: ภาษาไทย 1 ชั่วโมง +
กฎหมาย 2 ชั่วโมง
3. แบ่งเวลาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
หากมีเวลาเตรียมตัว 3 เดือนหรือมากกว่า: แบ่งเนื้อหาเป็นรายสัปดาห์ เช่น สัปดาห์แรกทบทวนพื้นฐานทั้งหมด สัปดาห์ถัดไปเน้นทำโจทย์เฉพาะ
จุด
หากมีเวลาเตรียมตัว 1-2 เดือน: เน้นการทำข้อสอบเก่าและฝึกจับเวลา พร้อมกับทบทวนจุดที่ยังไม่เข้าใจ
หากมีเวลาเตรียมตัว น้อยกว่า 1
เดือน: ให้เน้นทำข้อสอบเก่าทุกวัน และจดจำประเด็นสำคัญในกฎหมายหรือหัวข้อที่ออกสอบบ่อย
4. ทำโจทย์จริงและจับเวลา
ในช่วงท้ายของการเตรียมสอบ ควรทำข้อสอบจำลองเหมือนจริงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อฝึกบริหารเวลาในห้องสอบ และทบทวนคำ
ตอบหลังทำข้อสอบเสร็จ
5. เพิ่มความยืดหยุ่น
แม้ว่าคุณจะมีตารางเวลา แต่ควรเผื่อเวลาสำหรับเรื่องที่ไม่คาดคิด หรือหากรู้สึกเหนื่อยเกินไป ควรปรับตารางให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและ
จิตใจ
ตัวอย่างตารางการทบทวน
เช้า:
8.00 – 9.30 น.: วิชาคณิตศาสตร์
10.00 – 11.00 น.: ภาษาไทย
บ่าย:
13.00 – 14.30 น.: ภาษาอังกฤษ
15.00 – 16.00 น.: กฎหมาย
เย็น:
18.00 – 19.00 น.: ทบทวนโจทย์ที่ทำผิดและแก้ไข
6. ติดตามความคืบหน้า
จดบันทึกสิ่งที่คุณเรียนรู้ในแต่ละวันและความคืบหน้าของคุณ เช่น หัวข้อที่เข้าใจแล้ว หรือสิ่งที่ยังต้องปรับปรุง เพื่อช่วยวางแผนวันต่อไปให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การแบ่งเวลาอย่างมีระบบจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มโอกาสสำเร็จในการสอบ ก.พ. อย่าลืมรักษาสมดุลระหว่างการอ่าน
หนังสือกับการพักผ่อน และอย่าละเลยการดูแลสุขภาพในช่วงเตรียมสอบ!
การวิเคราะห์จุดอ่อน – จุดแข็งของตัวเองสำหรับการสอบ ก.พ.
การสอบ ก.พ. (การสอบเพื่อวัดความสามารถพื้นฐานในการทำงานในตำแหน่งราชการ) เป็นการสอบที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่สายงาน
ราชการในประเทศไทย การวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเองถือเป็นกระบวนการสำคัญในการเตรียมตัวสอบให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะช่วยให้
เราวางแผนและปรับปรุงตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ความสำคัญของการวิเคราะห์ตัวเอง
ช่วยให้รู้ว่าความสามารถหรือความรู้ด้านใดที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม
ช่วยให้จัดสรรเวลาและทรัพยากรในการเตรียมตัวสอบได้อย่างเหมาะสม
ทำให้มี
แผนการเรียนที่ชัดเจนและสามารถติดตามผลได้
เพิ่มความมั่นใจในจุดแข็งที่เรามี และลดความกังวลเกี่ยวกับจุดอ่อน
เราวางแผนและปรับปรุง
ตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ขั้นตอนการวิเคราะห์จุดอ่อน – จุดแข็ง
2.1 ประเมินความรู้พื้นฐาน
จุดแข็ง: หัวข้อที่ทำได้ดี เช่น คณิตศาสตร์พื้นฐาน ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ
จุดอ่อน: หัวข้อที่ยังทำคะแนนได้น้อย หรือมีความเข้าใจไม่เพียงพอ
วิธีการ: ทำแบบทดสอบจำลอง (Mock Test) เพื่อดูว่าเราได้คะแนนในแต่ละพาร์ทอย่างไร
2.2 ตรวจสอบรูปแบบการเรียนรู้ของตัวเอง
จุดแข็ง: วิธีการเรียนรู้ที่ได้ผล เช่น การอ่านหนังสือ การทำสรุป หรือการฟังคลิปสอน
จุดอ่อน: วิธีการที่ไม่
เหมาะกับตัวเอง เช่น อ่านหนังสือแล้วไม่เข้าใจ ต้องเน้นทำโจทย์มากกว่า
วิธีการ: ลองปรับวิธีการเรียนรู้หลายรูปแบบ เช่น การวาด Mind Map
การทำ Flashcards หรือการทำแบบฝึกหัดซ้ำ ๆ
2.3 การจัดการเวลา
จุดแข็ง: การวางแผนเวลาที่มีประสิทธิภาพ เช่น การจัดตารางอ่านหนังสือ และการพักผ่อนที่เหมาะสม
จุดอ่อน: การบริหารเวลาที่ไม่ดี เช่น
การอ่านหนังสือใกล้วันสอบ หรือการจัดลำดับความสำคัญผิดพลาด
วิธีการ: ใช้เครื่องมือช่วยจัดการเวลา เช่น ตารางการอ่าน
(Study Schedule) หรือแอปพลิเคชันบริหารเวลา
2.4 สภาพจิตใจและแรงจูงใจ
จุดแข็ง: การมีแรงจูงใจที่ดี เช่น ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และมีความมั่นใจในตัวเอง
จุดอ่อน: ความวิตกกังวล ความกลัวสอบตก หรือการขาดแรง
บันดาลใจ
วิธีการ: ฝึกฝนการคิดบวก หรือพูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จในการสอบ ก.พ.
3. การแก้ไขจุดอ่อนและเสริมจุดแข็ง
3.1 การปรับปรุงจุดอ่อน
แยกจุดอ่อนออกมาเป็นหัวข้อย่อย เช่น "ภาษาอังกฤษ - Part Error Detection"
จัดเวลาให้หัวข้อที่เป็นจุดอ่อนมากขึ้นในแต่ละวัน
ใช้แหล่งข้อมูลเสริม เช่น หนังสือเฉพาะทาง คลิปวิดีโอสอน หรือสมัครคอร์สติว
3.2 การพัฒนาจุดแข็ง
ทำแบบฝึกหัดในหัวข้อที่เป็นจุดแข็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
ใช้จุดแข็งในการช่วยทำคะแนนในส่วนที่ถนัด เพื่อชดเชยจุดอ่อนในพาร์ท
อื่น
สอนหรือแบ่งปันความรู้กับเพื่อน เพื่อเสริมความเข้าใจของเราเอง
4. ประโยชน์จากการวิเคราะห์ตนเอง
ช่วยลดความเครียดและความกังวลในการสอบ เพราะเรารู้จุดที่ต้องพัฒนา
เพิ่มโอกาสในการสอบผ่าน ด้วยการปรับปรุงอย่างตรงจุด
ทำให้การเตรียมตัวสอบมีเป้าหมายชัดเจนและ
ประสิทธิภาพมากขึ้น
การวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งอย่างจริงจังจะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสและอุปสรรคของตัวเองได้ชัดเจน และสามารถ
วางแผนการสอบ ก.พ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น!
การมีวินัยในการอ่านหนังสือสอบ ก.พ.
การสอบ ก.พ. ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่สายงานราชการ ความสำเร็จในการสอบนี้ไม่เพียงพึ่งพาความฉลาด
หรือความรู้ที่มีอยู่ แต่ยังต้องอาศัย "วินัย" ในการอ่านหนังสือและเตรียมตัวอย่างต่อเนื่อง การมีวินัยจะช่วยให้คุณสามารถจัดการเวลา ฝึกฝน
และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้
1. ความสำคัญของวินัยในการอ่านหนังสือ
สร้างความสม่ำเสมอ: การอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่องทำให้ข้อมูลถูกบันทึกในสมองระยะยาว
ลดความเครียดก่อนสอบ: เมื่อเตรียมตัวมาอย่างดี จะช่วยลดความกังวลที่มักเกิดก่อนวันสอบ
เพิ่มประสิทธิภาพ: วินัยช่วยให้คุณจัดการเวลาได้ดีขึ้น
ทำให้สามารถครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด
ส่งเสริมการพัฒนาตนเอง: วินัยไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องสอบ แต่ยังเป็นทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
และการทำงาน
2. ขั้นตอนการสร้างวินัยในการอ่านหนังสือ
2.1 ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
เขียนเป้าหมายในการสอบ ก.พ. เช่น “ต้องสอบผ่านรอบแรกในปีนี้”
แบ่งเป้าหมายย่อย เช่น ทำคะแนนพาร์ทภาษาไทยให้ได้
80%, ภาษาอังกฤษ 70% และคณิตศาสตร์ 85%
การมีเป้าหมายชัดเจนจะช่วยกระตุ้นให้คุณมีแรงจูงใจในการอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง
2.2 วางแผนการอ่านหนังสือ
ใช้เทคนิคการเรียนรู้ที่เหมาะสม
แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนเล็ก ๆ: แทนที่จะอ่านทุกอย่างในครั้งเดียว ให้แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนย่อยที่สามารถจัดการได้ง่าย
ใช้เทคนิค Active Recall: เช่น การตั้งคำถามและตอบเอง หรือการทำแบบฝึกหัดหลังอ่านจบ
ใช้ Mind Map: เพื่อช่วยให้เข้าใจภาพรวม
ของเนื้อหาและจำได้ง่ายขึ้น
2.3 ใช้เทคนิคการเรียนรู้ที่เหมาะสม
แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนเล็ก ๆ: แทนที่จะอ่านทุกอย่างในครั้งเดียว ให้แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนย่อยที่สามารถจัดการได้ง่าย
ใช้เทคนิค Active Recall: เช่น
การตั้งคำถามและตอบเอง หรือการทำแบบฝึกหัดหลังอ่านจบ
ใช้ Mind Map: เพื่อช่วยให้เข้าใจภาพรวมของเนื้อหาและจำได้ง่ายขึ้น
2.4 สร้างนิสัยการอ่านประจำวัน
2.5 จัดการสิ่งรบกวน
3. การเสริมสร้างวินัย
3.1 สร้างรางวัลและบทลงโทษ
ตั้งรางวัลเมื่อคุณทำตามแผนได้ เช่น ทานอาหารโปรดหรือดูหนัง ตั้งบทลงโทษหากไม่ทำตาม เช่น งดเล่นโซเชียลมีเดียในวันนั้น
3.2 หากลุ่มเพื่อนอ่านหนังสือ
การมีเพื่อนร่วมเป้าหมายช่วยกระตุ้นและสร้างความมุ่งมั่น สามารถแลกเปลี่ยนความรู้หรือข้อสงสัยกันได้
3.3 สร้างกำลังใจให้ตัวเอง
เขียนข้อความให้กำลังใจตัวเองและแปะไว้ในที่เห็นบ่อย ๆ จดบันทึกความก้าวหน้าของตัวเอง เช่น "วันนี้อ่านจบบทที่ 3 แล้ว!"
4. ผลลัพธ์ของการมีวินัย
สามารถอ่านหนังสือและทบทวนเนื้อหาได้ครบถ้วนก่อนวันสอบ
เพิ่มความมั่นใจในความรู้ของตัวเอง
ลดความรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้าจาก
การอ่านหนังสือแบบเร่งรีบ
5. ข้อคิดในการรักษาวินัย
วินัยไม่ใช่สิ่งที่สร้างได้ในวันเดียว แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ
การล้มเหลวในบางวันไม่ได้แปลว่าคุณไม่มีวินัย
แต่เป็นโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ในวันถัดไป
ทุกความสำเร็จเริ่มต้นจากการพยายามก้าวเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ
การมีวินัยในการอ่านหนังสือสอบ
ก.พ. ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มโอกาสสอบผ่าน แต่ยังช่วยเสริมสร้างนิสัยที่ดีซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว หากคุณทำได้
คุณก็พร้อมที่จะก้าวสู่ความสำเร็จทั้งในการสอบและในหน้าที่การงาน!
ประโยชน์ของการสอบ ก.พ.
การสอบ ก.พ. ไม่เพียงช่วยเปิดโอกาสให้คุณเข้าสู่ระบบราชการ แต่ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของตนเองในสายงานที่มั่นคง สวัสดิการดี และ
สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้ หากคุณกำลังตั้งเป้าหมายนี้ไว้ อย่าลืมเตรียมตัวให้ดีเพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ!