ทดลองเรียน ติวสอบราชการ ได้สายงานมูลค่า  590 บาท “ฟรี”

เปิดรับสมัครสอบ ก.พ. ปี 68 รอบ Paper และ E-exam

เปิดรับสมัคร ก.พ. ปี 68 รอบ Paper & E-exam

📆 ปฏิทินการสมัครสอบ ก.พ. ปี 2568: โอกาสสำคัญสำหรับการเริ่มต้นสายงานราชการ

1. บัตรประจำตัวสอบ: เอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันสิทธิ์การสอบ ห้ามลืมหรือทำหายเด็ดขาด บัตรประจำตัวประชาชน: หรือเอกสารที่มีเลขประจำตัว

2. ประชาชน 13 หลัก เช่น บัตรเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งต้องมีรูปถ่ายและลายมือชื่อที่ชัดเจน อุปกรณ์ที่จำเป็น: ได้แก่ ปากกา ยางลบ

ดินสอ 2B หรือเข้มกว่า และกบเหลาดินสอที่ไม่ใช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

3. สิ่งของจำเป็นเพิ่มเติม: หากจำเป็นต้องนำกุญแจรถ รีโมตรถยนต์หรือกระเป๋าเงินเข้าห้องสอบ ให้ใส่ในถุงพลาสติกใสที่เตรียมมาเอง

💡ความสำคัญของการสอบ ก.พ.

การสอบ ก.พ. ถือเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่ทุกคนที่ต้องการทำงานในสายงานราชการต้องผ่าน โดยเน้นการวัดความรู้ความสามารถในหลาก

หลายด้าน เช่น การคิดวิเคราะห์ ความสามารถทางภาษาไทย และความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ราชการ นอกจากนี้ การสอบยังเป็นมาตรฐาน

ที่ช่วยยกระดับคุณภาพบุคลากรในระบบราชการ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สอบผ่านมีความสามารถและคุณสมบัติที่เหมาะสมในการรับผิดชอบหน้าที่ที่

สำคัญในภาครัฐ

*** ทั้งนี้ผู้สมัครสามารถสมัครสอบได้ทั้ง 2 แบบ ***

📍กำหนดการสำคัญที่ควรทราบ

การสอบ ก.พ. ถือเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่ทุกคนที่ต้องการทำงานในสายงานราชการต้องผ่าน โดยเน้นการวัดความรู้ความสามารถในหลาก

หลายด้าน เช่น การคิดวิเคราะห์ ความสามารถทางภาษาไทย และความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ราชการ นอกจากนี้ การสอบยังเป็นมาตรฐาน

ที่ช่วยยกระดับคุณภาพบุคลากรในระบบราชการ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สอบผ่านมีความสามารถและคุณสมบัติที่เหมาะสมในการรับผิดชอบหน้าที่ที่

สำคัญในภาครัฐ

เปิดระบบกรอกข้อมูลล่วงหน้า (ไม่ใช่การสมัครสอบ):

วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2568

รับสมัครสอบแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam): 🖥️

วันที่ 8 - 28 มกราคม 2568

รับสมัครสอบแบบกระดาษ (Paper & Pencil):📝

วันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568

อย่าลืมตรวจสอบเอกสารและข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อไม่พลาดโอกาสสำคัญนี้!

📝เนื้อหาและการสอบในปี 2568

การสอบ ก.พ. ภาค ก จะแบ่งออกเป็น 3 วิชา ดังนี้:

1. วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ (คณิตศาสตร์และภาษาไทย) ข้อสอบ 50 ข้อ (100 คะแนน)

เนื้อหา: การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา (ภาษาไทย), การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม (คณิตศาสตร์), และการคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ เกณฑ์ผ่าน: คะแนน

60% สำหรับ ปวช./ปวส./ป.ตรี และ 65% สำหรับ ป.โท

2. วิชาความสามารถทางภาษาอังกฤษ ข้อสอบ 25 ข้อ (50 คะแนน) เนื้อหา: Grammar, Conversation, Vocabulary, Reading

เกณฑ์ผ่าน: คะแนน 50% สำหรับทุกระดับการศึกษา

3.วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี (กฎหมาย) ข้อสอบ 25 ข้อ (50 คะแนน) เนื้อหา: ประมวลกฎหมายและระเบียบสำคัญในหน้าที่

ราชการ เกณฑ์ผ่าน: คะแนน 50% สำหรับทุกระดับการศึกษา

🗞️ ภาคการสอบเพิ่มเติม

1.ภาค ก: การวัดความรู้ความสามารถทั่วไป

2.ภาค ข: การวัดความสามารถเฉพาะตำแหน่ง

3.ภาค ค: การสอบสัมภาษณ์และการทดสอบจิตวิทยา

🪄 เคล็ดลับเตรียมตัวสอบ ก.พ. ให้พร้อม

ฝึกทำโจทย์เก่า: ข้อสอบ ก.พ. มักมีเนื้อหาคล้ายเดิม การฝึกทำโจทย์ซ้ำช่วยเพิ่มความคุ้นเคย จับเวลาทำข้อสอบ: การบริหารเวลาในห้องสอบเป็น

สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม อ่านเนื้อหาอย่างละเอียด: โดยเฉพาะกฎหมายและระเบียบราชการ ทำแบบทดสอบออนไลน์: เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น

มีแนวข้อสอบให้ฝึก

เตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ ก.พ.

⏰ การแบ่งเวลาทบทวนเนื้อหา

การแบ่งเวลาทบทวนเนื้อหาสำหรับการเตรียมสอบ ก.พ. เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุม

เนื้อหาที่จะสอบได้ครบถ้วน ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำหรับการแบ่งเวลาและจัดตารางการทบทวน

1. วิเคราะห์เนื้อหาที่ต้องเตรียม

เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดที่ต้องสอบ ก.พ. แบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วนหลัก:

2. จัดตารางการเรียนที่เหมาะสม

แบ่งเวลาเป็นช่วงสั้น ๆ: ทบทวนครั้งละ 25-50 นาที แล้วพัก 5-10 นาที (เรียกว่า Pomodoro Technique) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจดจำ

จัดสรรเวลาเฉพาะสำหรับแต่ละวิชา: ตัวอย่างเช่น: วันจันทร์: คณิตศาสตร์ 2 ชั่วโมง + ภาษาอังกฤษ 1 ชั่วโมง วันอังคาร: ภาษาไทย 1 ชั่วโมง +

กฎหมาย 2 ชั่วโมง

3. แบ่งเวลาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย

หากมีเวลาเตรียมตัว 3 เดือนหรือมากกว่า: แบ่งเนื้อหาเป็นรายสัปดาห์ เช่น สัปดาห์แรกทบทวนพื้นฐานทั้งหมด สัปดาห์ถัดไปเน้นทำโจทย์เฉพาะ

จุด หากมีเวลาเตรียมตัว 1-2 เดือน: เน้นการทำข้อสอบเก่าและฝึกจับเวลา พร้อมกับทบทวนจุดที่ยังไม่เข้าใจ หากมีเวลาเตรียมตัว น้อยกว่า 1

เดือน: ให้เน้นทำข้อสอบเก่าทุกวัน และจดจำประเด็นสำคัญในกฎหมายหรือหัวข้อที่ออกสอบบ่อย

4. ทำโจทย์จริงและจับเวลา

ในช่วงท้ายของการเตรียมสอบ ควรทำข้อสอบจำลองเหมือนจริงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อฝึกบริหารเวลาในห้องสอบ และทบทวนคำ

ตอบหลังทำข้อสอบเสร็จ

5. เพิ่มความยืดหยุ่น

แม้ว่าคุณจะมีตารางเวลา แต่ควรเผื่อเวลาสำหรับเรื่องที่ไม่คาดคิด หรือหากรู้สึกเหนื่อยเกินไป ควรปรับตารางให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและ

จิตใจ

ตัวอย่างตารางการทบทวน

เช้า:

8.00 – 9.30 น.: วิชาคณิตศาสตร์

10.00 – 11.00 น.: ภาษาไทย



บ่าย:

13.00 – 14.30 น.: ภาษาอังกฤษ

15.00 – 16.00 น.: กฎหมาย



เย็น:

18.00 – 19.00 น.: ทบทวนโจทย์ที่ทำผิดและแก้ไข

6. ติดตามความคืบหน้า

จดบันทึกสิ่งที่คุณเรียนรู้ในแต่ละวันและความคืบหน้าของคุณ เช่น หัวข้อที่เข้าใจแล้ว หรือสิ่งที่ยังต้องปรับปรุง เพื่อช่วยวางแผนวันต่อไปให้มี

ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การแบ่งเวลาอย่างมีระบบจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มโอกาสสำเร็จในการสอบ ก.พ. อย่าลืมรักษาสมดุลระหว่างการอ่าน

หนังสือกับการพักผ่อน และอย่าละเลยการดูแลสุขภาพในช่วงเตรียมสอบ!

การวิเคราะห์จุดอ่อน – จุดแข็งของตัวเองสำหรับการสอบ ก.พ.

การสอบ ก.พ. (การสอบเพื่อวัดความสามารถพื้นฐานในการทำงานในตำแหน่งราชการ) เป็นการสอบที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่สายงาน

ราชการในประเทศไทย การวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเองถือเป็นกระบวนการสำคัญในการเตรียมตัวสอบให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะช่วยให้

เราวางแผนและปรับปรุงตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ความสำคัญของการวิเคราะห์ตัวเอง

ช่วยให้รู้ว่าความสามารถหรือความรู้ด้านใดที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม ช่วยให้จัดสรรเวลาและทรัพยากรในการเตรียมตัวสอบได้อย่างเหมาะสม ทำให้มี

แผนการเรียนที่ชัดเจนและสามารถติดตามผลได้ เพิ่มความมั่นใจในจุดแข็งที่เรามี และลดความกังวลเกี่ยวกับจุดอ่อน เราวางแผนและปรับปรุง

ตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ขั้นตอนการวิเคราะห์จุดอ่อน – จุดแข็ง

2.1 ประเมินความรู้พื้นฐาน

จุดแข็ง: หัวข้อที่ทำได้ดี เช่น คณิตศาสตร์พื้นฐาน ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ จุดอ่อน: หัวข้อที่ยังทำคะแนนได้น้อย หรือมีความเข้าใจไม่เพียงพอ

วิธีการ: ทำแบบทดสอบจำลอง (Mock Test) เพื่อดูว่าเราได้คะแนนในแต่ละพาร์ทอย่างไร

2.2 ตรวจสอบรูปแบบการเรียนรู้ของตัวเอง

จุดแข็ง: วิธีการเรียนรู้ที่ได้ผล เช่น การอ่านหนังสือ การทำสรุป หรือการฟังคลิปสอน จุดอ่อน: วิธีการที่ไม่

เหมาะกับตัวเอง เช่น อ่านหนังสือแล้วไม่เข้าใจ ต้องเน้นทำโจทย์มากกว่า วิธีการ: ลองปรับวิธีการเรียนรู้หลายรูปแบบ เช่น การวาด Mind Map

การทำ Flashcards หรือการทำแบบฝึกหัดซ้ำ ๆ

2.3 การจัดการเวลา

จุดแข็ง: การวางแผนเวลาที่มีประสิทธิภาพ เช่น การจัดตารางอ่านหนังสือ และการพักผ่อนที่เหมาะสม จุดอ่อน: การบริหารเวลาที่ไม่ดี เช่น

การอ่านหนังสือใกล้วันสอบ หรือการจัดลำดับความสำคัญผิดพลาด วิธีการ: ใช้เครื่องมือช่วยจัดการเวลา เช่น ตารางการอ่าน

(Study Schedule) หรือแอปพลิเคชันบริหารเวลา

2.4 สภาพจิตใจและแรงจูงใจ

จุดแข็ง: การมีแรงจูงใจที่ดี เช่น ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และมีความมั่นใจในตัวเอง จุดอ่อน: ความวิตกกังวล ความกลัวสอบตก หรือการขาดแรง

บันดาลใจ วิธีการ: ฝึกฝนการคิดบวก หรือพูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จในการสอบ ก.พ.

3. การแก้ไขจุดอ่อนและเสริมจุดแข็ง

3.1 การปรับปรุงจุดอ่อน

แยกจุดอ่อนออกมาเป็นหัวข้อย่อย เช่น "ภาษาอังกฤษ - Part Error Detection"

จัดเวลาให้หัวข้อที่เป็นจุดอ่อนมากขึ้นในแต่ละวัน ใช้แหล่งข้อมูลเสริม เช่น หนังสือเฉพาะทาง คลิปวิดีโอสอน หรือสมัครคอร์สติว

3.2 การพัฒนาจุดแข็ง

ทำแบบฝึกหัดในหัวข้อที่เป็นจุดแข็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ใช้จุดแข็งในการช่วยทำคะแนนในส่วนที่ถนัด เพื่อชดเชยจุดอ่อนในพาร์ท

อื่น สอนหรือแบ่งปันความรู้กับเพื่อน เพื่อเสริมความเข้าใจของเราเอง

4. ประโยชน์จากการวิเคราะห์ตนเอง

ช่วยลดความเครียดและความกังวลในการสอบ เพราะเรารู้จุดที่ต้องพัฒนา เพิ่มโอกาสในการสอบผ่าน ด้วยการปรับปรุงอย่างตรงจุด

ทำให้การเตรียมตัวสอบมีเป้าหมายชัดเจนและ

ประสิทธิภาพมากขึ้น การวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งอย่างจริงจังจะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสและอุปสรรคของตัวเองได้ชัดเจน และสามารถ

วางแผนการสอบ ก.พ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น!

เตรียมตัวอ่านหนังสือ ติวสอบ ก.พ.

การมีวินัยในการอ่านหนังสือสอบ ก.พ.

การสอบ ก.พ. ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่สายงานราชการ ความสำเร็จในการสอบนี้ไม่เพียงพึ่งพาความฉลาด

หรือความรู้ที่มีอยู่ แต่ยังต้องอาศัย "วินัย" ในการอ่านหนังสือและเตรียมตัวอย่างต่อเนื่อง การมีวินัยจะช่วยให้คุณสามารถจัดการเวลา ฝึกฝน

และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้

1. ความสำคัญของวินัยในการอ่านหนังสือ

สร้างความสม่ำเสมอ: การอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่องทำให้ข้อมูลถูกบันทึกในสมองระยะยาว

ลดความเครียดก่อนสอบ: เมื่อเตรียมตัวมาอย่างดี จะช่วยลดความกังวลที่มักเกิดก่อนวันสอบ เพิ่มประสิทธิภาพ: วินัยช่วยให้คุณจัดการเวลาได้ดีขึ้น

ทำให้สามารถครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด ส่งเสริมการพัฒนาตนเอง: วินัยไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องสอบ แต่ยังเป็นทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

และการทำงาน

2. ขั้นตอนการสร้างวินัยในการอ่านหนังสือ

2.1 ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เขียนเป้าหมายในการสอบ ก.พ. เช่น “ต้องสอบผ่านรอบแรกในปีนี้” แบ่งเป้าหมายย่อย เช่น ทำคะแนนพาร์ทภาษาไทยให้ได้

80%, ภาษาอังกฤษ 70% และคณิตศาสตร์ 85% การมีเป้าหมายชัดเจนจะช่วยกระตุ้นให้คุณมีแรงจูงใจในการอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง

2.2 วางแผนการอ่านหนังสือ

ใช้เทคนิคการเรียนรู้ที่เหมาะสม แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนเล็ก ๆ: แทนที่จะอ่านทุกอย่างในครั้งเดียว ให้แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนย่อยที่สามารถจัดการได้ง่าย

ใช้เทคนิค Active Recall: เช่น การตั้งคำถามและตอบเอง หรือการทำแบบฝึกหัดหลังอ่านจบ ใช้ Mind Map: เพื่อช่วยให้เข้าใจภาพรวม

ของเนื้อหาและจำได้ง่ายขึ้น

2.3 ใช้เทคนิคการเรียนรู้ที่เหมาะสม

แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนเล็ก ๆ: แทนที่จะอ่านทุกอย่างในครั้งเดียว ให้แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนย่อยที่สามารถจัดการได้ง่าย ใช้เทคนิค Active Recall: เช่น

การตั้งคำถามและตอบเอง หรือการทำแบบฝึกหัดหลังอ่านจบ ใช้ Mind Map: เพื่อช่วยให้เข้าใจภาพรวมของเนื้อหาและจำได้ง่ายขึ้น

2.4 สร้างนิสัยการอ่านประจำวัน

2.5 จัดการสิ่งรบกวน

3. การเสริมสร้างวินัย

3.1 สร้างรางวัลและบทลงโทษ

ตั้งรางวัลเมื่อคุณทำตามแผนได้ เช่น ทานอาหารโปรดหรือดูหนัง ตั้งบทลงโทษหากไม่ทำตาม เช่น งดเล่นโซเชียลมีเดียในวันนั้น

3.2 หากลุ่มเพื่อนอ่านหนังสือ

การมีเพื่อนร่วมเป้าหมายช่วยกระตุ้นและสร้างความมุ่งมั่น สามารถแลกเปลี่ยนความรู้หรือข้อสงสัยกันได้

3.3 สร้างกำลังใจให้ตัวเอง

เขียนข้อความให้กำลังใจตัวเองและแปะไว้ในที่เห็นบ่อย ๆ จดบันทึกความก้าวหน้าของตัวเอง เช่น "วันนี้อ่านจบบทที่ 3 แล้ว!"

4. ผลลัพธ์ของการมีวินัย

สามารถอ่านหนังสือและทบทวนเนื้อหาได้ครบถ้วนก่อนวันสอบ เพิ่มความมั่นใจในความรู้ของตัวเอง ลดความรู้สึกเครียดและเหนื่อยล้าจาก

การอ่านหนังสือแบบเร่งรีบ

5. ข้อคิดในการรักษาวินัย

วินัยไม่ใช่สิ่งที่สร้างได้ในวันเดียว แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ การล้มเหลวในบางวันไม่ได้แปลว่าคุณไม่มีวินัย

แต่เป็นโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ในวันถัดไป ทุกความสำเร็จเริ่มต้นจากการพยายามก้าวเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ การมีวินัยในการอ่านหนังสือสอบ

ก.พ. ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มโอกาสสอบผ่าน แต่ยังช่วยเสริมสร้างนิสัยที่ดีซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว หากคุณทำได้

คุณก็พร้อมที่จะก้าวสู่ความสำเร็จทั้งในการสอบและในหน้าที่การงาน!

ประโยชน์ของการสอบ ก.พ.

การสอบ ก.พ. ไม่เพียงช่วยเปิดโอกาสให้คุณเข้าสู่ระบบราชการ แต่ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของตนเองในสายงานที่มั่นคง สวัสดิการดี และ

สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้ หากคุณกำลังตั้งเป้าหมายนี้ไว้ อย่าลืมเตรียมตัวให้ดีเพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ!

Picture of เขียนโดย   พี่บัส GURU ACADEMY
เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY

เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่1 ของประเทศ

เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY
เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่ 1 ของประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอร์สติวสอบราชการ ออนไลน์

ที่สุด...แห่งคุณภาพ กว่า 10 ปี

ที่สุด…แห่งผลงานการันตีอันดับ 1

ที่สุด…แห่งความครบถ้วน จัดเต็มทุกวิชา

GURU ACADEMY คอร์สติวสอบราชการ

ประสบการณ์สอนมากกว่า 10 ปี มีลูกศิษย์มากกว่า 20,000 คน

เมนู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า