📌 ความสำคัญของการสอบ ก.พ. และสอบท้องถิ่น
การสอบ ก.พ. และการสอบท้องถิ่นเป็นกระบวนการที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ระบบงานราชการในประเทศไทย ทั้งสองการสอบมีจุด
ประสงค์หลักคือการคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับการทำงานในหน่วยงานของรัฐ เพื่อพัฒนาประเทศและให้บริการ
ประชาชนในรูปแบบที่ต่างกัน ข้อแตกต่างที่สำคัญคือขอบเขตการทำงานและประเภทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การสอบ ก.พ. คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร ?
การสอบ ก.พ. (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) เป็นการสอบกลางที่จัดขึ้นเพื่อวัดความรู้ความสามารถของผู้สมัครที่ต้องการ
ทำงานในหน่วยงานราชการส่วนกลาง หน่วยงานราชการเหล่านี้ครอบคลุมกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ
ความสำคัญของการสอบ ก.พ.
🔘 การสอบ ก.พ. เป็นเครื่องมือในการวัดความสามารถของผู้สมัครในระดับมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
🔘 ผู้ที่สอบผ่าน ก.พ. ภาค ก. จะมีสิทธิ์สมัครงานในตำแหน่งราชการทั่วไปที่ระบุว่า “ต้องสอบผ่าน ก.พ.”
🔘 การสอบ ก.พ. เปิดโอกาสให้ผู้ที่สอบผ่านสามารถสมัครงานในหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข หรือกระทรวง
ศึกษาธิการ
หน้าที่ของผู้ที่สอบผ่าน ก.พ.
🔘 งานด้านนโยบาย เช่น การวางแผนพัฒนาประเทศในระดับมหภาค
🔘 งานวิจัย เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจหรือสังคม
🔘 งานบริหาร เช่น การจัดการงบประมาณ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในหน่วยงานรัฐ
การสอบท้องถิ่นคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร?
การสอบท้องถิ่นจัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าทำงานใน
หน่วยงานราชการที่อยู่ในพื้นที่ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
🔹 ความสำคัญของการสอบท้องถิ่น
🔘 พัฒนาพื้นที่เฉพาะ: การสอบท้องถิ่นมีเป้าหมายให้บุคคลที่คุ้นเคยกับพื้นที่ทำงานในท้องถิ่นของตนเอง
🔘 เสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชน: ผู้ที่สอบผ่านจะทำงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชน การบริหารงานส่วนท้องถิ่น
และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
🔘 กระจายอำนาจ: การสอบท้องถิ่นช่วยให้การทำงานราชการสามารถเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้โดยตรง
🔹 หน้าที่ของผู้ที่สอบผ่านท้องถิ่น
🔘 การพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น การปรับปรุงถนน การดูแลระบบประปาในชุมชน
🔘 การส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น การสนับสนุนเกษตรกรหรือธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่
🔘 งานด้านบริการประชาชน เช่น การดูแลสุขภาพเบื้องต้น การบริหารจัดการการศึกษาในระดับพื้นที่
หัวข้อ
เป้าหมายหลัก
ขอบเขตงาน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หน้าที่หลัก
โอกาสความก้าวหน้า
การสอบ ก.พ.
วัดความสามารถกลางเพื่อเข้ารับราชการในหน่วยงานส่วนกลาง
งานระดับประเทศ ครอบคลุมทุกพื้นที่
กระทรวง กรม ส่วนราชการส่วนกลาง
วางแผนเชิงนโยบาย บริหารงานราชการทั่วไป
ก้าวหน้าในระดับประเทศ
การสอบท้องถิ่น
คัดเลือกบุคคลเพื่อทำงานในพื้นที่ท้องถิ่น
งานที่เน้นพื้นที่เฉพาะ เช่น อบต., เทศบาล
อบจ., อบต., เทศบาล
พัฒนาชุมชน การแก้ไขปัญหาในพื้นที่
มุ่งเน้นการพัฒนาท้องถิ่น
การสอบท้องถิ่นคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร?
แม้ว่าการสอบ ก.พ. และการสอบท้องถิ่นจะมีความแตกต่างในแง่ของเป้าหมายและขอบเขตงาน แต่ทั้งสองการสอบล้วนมีบทบาทสำคัญในการ
พัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน
🔘 การสอบ ก.พ. ช่วยวางรากฐานเชิงนโยบายในระดับชาติ
🔘 การสอบท้องถิ่นช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับพื้นที่ในระดับท้องถิ่น
ผู้ที่สนใจสอบควรพิจารณาจากเป้าหมายการทำงานของตนเอง เช่น ต้องการทำงานในระดับประเทศหรือระดับท้องถิ่น และควรเตรียมตัวให้
เหมาะสมกับลักษณะของแต่ละการสอบเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
ประเภทของการสอบ ก.พ.
การสอบ ก.พ. แบ่งออกเป็น 3 ภาคใหญ่ ๆ เพื่อประเมินคุณสมบัติที่แตกต่างกันในแต่ละขั้นตอน ได้แก่
🔹 ก.พ. ภาค ก. (ความรู้ความสามารถทั่วไป)
เป็นการสอบข้อเขียนที่วัดความรู้พื้นฐานของผู้สมัคร
🔸 เนื้อหาที่สอบ
🔘 ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ (คณิตศาสตร์พื้นฐาน การวิเคราะห์เชิงตรรกะ)
🔘 ความสามารถด้านภาษาไทย (ความเข้าใจในข้อความ การเขียนภาษาไทยอย่างถูกต้อง)
🔘 ความรู้ทั่วไป (เช่น ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม)
วัตถุประสงค์
- เพื่อคัดกรองผู้ที่มีพื้นฐานความรู้เพียงพอสำหรับเข้าสู่กระบวนการสอบในขั้นต่อไป
🔹 ก.พ. ภาค ข. (ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง)
- เป็นการสอบข้อเขียนที่วัดความรู้เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ผู้สมัครสนใจ
🔸 ตัวอย่างตำแหน่งงาน
🔘 นักทรัพยากรบุคคล
🔘 นักวิเคราะห์นโยบายและแผน
🔘 นักวิชาการศึกษา
🔘 เจ้าพนักงานธุรการ
🔸 เนื้อหาที่สอบ
🔘 ความรู้เฉพาะทาง เช่น กฎหมาย ระเบียบ หรือแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง
🔘 ความสามารถทางวิชาชีพ เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการวิเคราะห์ข้อมูล
🔹 ก.พ. ภาค ค (การสอบสัมภาษณ์)
🔘 เป็นการประเมินทัศนคติ บุคลิกภาพ ความเหมาะสมในตำแหน่งงาน รวมถึงความสามารถในการสื่อสาร
🔸 กระบวนการสัมภาษณ์
🔘 การตอบคำถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในการทำงานราชการ
🔘 การวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อแก้ไขปัญหา
🔘 การแสดงออกถึงความรับผิดชอบและความซื่อสัตย์สุจริต
🔹เกณฑ์การสอบผ่าน
คะแนนขั้นต่ำในการสอบผ่าน
🔘 สำหรับ ก.พ. ภาค ก. ผู้สอบต้องได้คะแนนอย่างน้อย 60% ในแต่ละส่วนของข้อสอบ
🔘 สำหรับ ก.พ. ภาค ข. คะแนนขั้นต่ำอาจแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่สมัคร
🔘 สำหรับ ก.พ. ภาค ค. การประเมินขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสัมภาษณ์
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สอบ
🔘 ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
🔘 อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
🔘 จบการศึกษาในระดับที่ตรงกับตำแหน่งที่สมัคร เช่น ปริญญาตรีสำหรับตำแหน่งระดับปฏิบัติการ
🔹 วิธีการสมัครสอบ ก.พ.
ช่องทางการสมัคร
🔘 การสมัครสอบ ก.พ. ทำผ่านเว็บไซต์ สำนักงาน ก.พ. (https://ocsc.go.th)
🔘 ระบบสมัครสอบออนไลน์จะเปิดในช่วงเวลาที่กำหนด โดยผู้สมัครต้องตรวจสอบประกาศรับสมัครจากเว็บไซต์
กระบวนการสมัคร
🔘 ลงทะเบียนสร้างบัญชีผู้ใช้ในระบบสมัครสอบ
🔘 กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ วุฒิการศึกษา
🔘 เลือกประเภทการสอบ (ภาค ก., ภาค ข. หรือภาค ค.) และชำระค่าธรรมเนียม
🔘 อัปโหลดเอกสารประกอบ เช่น สำเนาบัตรประชาชน วุฒิการศึกษา
🔘 ดาวน์โหลดใบสมัครและรอประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
ประเภทของตำแหน่งที่รองรับหลังสอบผ่าน
📍 ตำแหน่งในระดับปฏิบัติการ (ปริญญาตรี)
🔘 นักทรัพยากรบุคคล
🔘 นักวิเคราะห์นโยบายและแผน
🔘 นักวิชาการศึกษา
🔘 นักวิชาการเกษตร
📍 ตำแหน่งในระดับชำนาญงาน (ปวส. หรือ ปวช.):
🔘 ผู้บริหารงานในหน่วยงานต่างๆ เช่น ผู้อำนวยการกอง
ตัวอย่างหน่วยงานที่รองรับ
🔘 กระทรวงศึกษาธิการ
🔘 กระทรวงมหาดไทย
🔘 กระทรวงสาธารณสุข
🔘 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
🔘 กรมป่าไม้ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานรัฐอื่นๆ
ลักษณะของการสอบท้องถิ่น
การสอบท้องถิ่นเป็นกระบวนการคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการปฏิบัติงานในหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การ
บริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือเมืองพัทยา การสอบนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการบริหารงาน
ในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นให้บุคลากรที่ผ่านการคัดเลือกมีความรู้ ความสามารถ และความเข้าใจในงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชนและพื้นที่ของ
ตนเอง
การสอบท้องถิ่นจัดโดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.)
กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ภายใต้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่จัดสอบเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานใน
หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น โดยการจัดสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ของ
ตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทบาทของ สถ. ในการจัดสอบ
🔘 วางมาตรฐานการสอบที่เป็นธรรมและเท่าเทียมกัน
🔘 ดูแลกระบวนการสอบ ตั้งแต่การประกาศรับสมัครไปจนถึงการประกาศผล
🔘 ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่เพื่อระบุความต้องการบุคลากร
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
🔘 องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
🔘 เทศบาล
🔘 องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
🔘 เมืองพัทยา
ประเภทตำแหน่งที่เปิดสอบในงานท้องถิ่น
ตำแหน่งที่เปิดสอบในงานท้องถิ่นมีหลากหลายระดับและสาขา โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. ตำแหน่งสายบริหาร
🔘 ผู้บริหารงานในท้องถิ่น เช่น ปลัด อบต., นายกเทศมนตรี
🔘 มุ่งเน้นการกำหนดนโยบาย วางแผน และบริหารจัดการงานในพื้นที่
2. ตำแหน่งสายปฏิบัติการ
🔘 พนักงานส่วนตำบล เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี
🔘 พนักงานเทศบาล เช่น เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานสุขาภิบาล
🔘 พนักงานเมืองพัทยา เช่น นักพัฒนาชุมชน นักวิชาการศึกษา
🔘 เน้นการทำงานเชิงเทคนิค เช่น การดูแลเอกสาร งานบริการประชาชน
3. ตำแหน่งสายงานเฉพาะทาง
🔘 นักวิชาการ เช่น นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม
🔘 พนักงานด้านวิศวกรรม เช่น วิศวกรโยธา วิศวกรไฟฟ้า
เกณฑ์การสอบ
การสอบท้องถิ่นมีการแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอนเพื่อประเมินความสามารถของผู้สมัครในหลากหลายมิติ ได้แก่
1. การสอบความรู้ทั่วไป
🔘 วัดความรู้พื้นฐาน เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และความเข้าใจในเหตุการณ์ปัจจุบัน
🔘 ความรู้ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการปกครองส่วนท้องถิ่น
2. การสอบความรู้การสอบความรู้เฉพาะตำแหน่ง
🔘 วัดความรู้ในงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง เช่น กฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น หรือกฎหมายสิ่งแวดล้อม
3. การสอบสัมภาษณ์
🔘 ประเมินบุคลิกภาพ ทัศนคติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัคร
🔘 ผู้สมัครต้องแสดงความเข้าใจในงานที่ต้องรับผิดชอบและเป้าหมายการทำงาน
4. เกณฑ์การสอบผ่าน
🔘 ผู้สอบต้องได้คะแนนตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดในแต่ละขั้นตอน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่ง
ข้อจำกัด: ผู้สอบผ่านจะทำงานในหน่วยงานท้องถิ่นที่สมัครเท่านั้น
หนึ่งในข้อกำหนดสำคัญของการสอบท้องถิ่นคือ ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับการบรรจุเฉพาะในหน่วยงานที่สมัครไว้เท่านั้น เช่น
🔘 หากสมัครสอบตำแหน่งในเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง ผู้สอบผ่านจะได้รับการบรรจุในเทศบาลตำบลนั้น
🔘 หากสมัครสอบใน อบต. ผู้สอบผ่านจะทำงานในเขตพื้นที่ของ อบต. นั้น
ข้อดีของการกำหนดพื้นที่ทำงาน
🔘 ช่วยให้ผู้ที่สอบผ่านสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับพื้นที่
🔘 สนับสนุนการพัฒนาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องโดยผู้ที่มีความผูกพันกับพื้นที่
ข้อควรระวัง
🔘 ผู้ที่สมัครสอบควรพิจารณาเลือกพื้นที่ที่สามารถทำงานได้จริง เพราะอาจไม่สามารถย้ายพื้นที่ทำงานได้ง่าย
ความสำคัญของการสอบท้องถิ่นในระบบราชการไทย
🔘 การสอบท้องถิ่นช่วยกระจายอำนาจการบริหารจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น
🔘 ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชุมชนในทุกภูมิภาคอย่างทั่วถึง
🔘 สนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่น ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน
การสอบท้องถิ่นจึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยพัฒนาประเทศในระดับพื้นที่ ผู้ที่สนใจควรศึกษาเงื่อนไขการสมัคร ตำแหน่งงานที่เปิดสอบ และเตรียม
ตัวอย่างรอบคอบเพื่อให้สอบผ่านและสามารถเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในราชการส่วนท้องถิ่นได้อย่างมั่นคง
ความแตกต่างระหว่างการสอบ ก.พ. และการสอบท้องถิ่น
การสอบ ก.พ. และการสอบท้องถิ่นมีจุดประสงค์หลักในการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ระบบราชการ แต่ทั้งสองการสอบมีความแตกต่างในหลายด้าน
เช่น หน่วยงานที่จัดสอบ ลักษณะของตำแหน่งที่รองรับ เกณฑ์การสอบ และพื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งการเปรียบเทียบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจ
สามารถตัดสินใจได้ว่าการสอบแบบใดเหมาะสมกับตนเอง
หน่วยงานที่จัดสอบ
✅ การสอบ ก.พ. การสอบ ก.พ. จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
🔘 เป็นหน่วยงานส่วนกลางที่ดูแลกระบวนการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ราชการพลเรือนสามัญในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาล
🔘 มุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานกลางสำหรับการคัดเลือกบุคลากรเข้าสู่ระบบราชการ
✅ การสอบท้องถิ่น การสอบท้องถิ่นจัดโดย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.)
🔘 เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยที่รับผิดชอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุในตำแหน่งงานในหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น
🔘 เน้นการคัดเลือกบุคคลที่สามารถทำงานในพื้นที่เฉพาะ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือเทศบาล
ลักษณะของตำแหน่งงานที่รองรับ
การสอบ ก.พ. ผู้ที่สอบผ่านการสอบ ก.พ. จะมีโอกาสสมัครตำแหน่งงานในหน่วยงานราชการส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาค เช่น
🔘 กระทรวงสาธารณสุข
🔘 กระทรวงศึกษาธิการ
🔘 กระทรวงมหาดไทย
🔘 กรมป่าไม้ กรมอุตุนิยมวิทยา ฯลฯ
ประเภทของตำแหน่งงาน
🔘 นักทรัพยากรบุคคล
🔘 นักวิชาการศึกษา
🔘 นักวิเคราะห์นโยบายและแผน
🔘 เจ้าหน้าที่ธุรการ
🔘 วิศวกร และอื่น ๆ
การสอบท้องถิ่น
ผู้สอบผ่านการสอบท้องถิ่นจะได้รับการบรรจุในหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น เช่น อบต., เทศบาล, หรือ อบจ. ในพื้นที่ที่สมัครไว้
ประเภทของตำแหน่งงาน
🔘 เจ้าพนักงานธุรการ
🔘 เจ้าพนักงานพัสดุ
🔘 เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี
🔘 นักพัฒนาชุมชน
🔘 นักวิชาการสิ่งแวดล้อม
🔘 นักวิชาการสุขาภิบาล
สรุป:
การสอบ ก.พ. เปิดโอกาสให้ผู้สมัครสามารถเลือกทำงานในหน่วยงานส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคได้ ในขณะที่การสอบท้องถิ่นกำหนดให้ผู้
สมัครทำงานในพื้นที่ที่สมัครสอบเท่านั้น
ประเภทของการสอบและเนื้อหาที่สอบ
การสอบ ก.พ. ประกอบด้วย 3 ภาคหลัก
🔸 ภาค ก. (ความรู้ความสามารถทั่วไป)
🔘 การคิดวิเคราะห์ (คณิตศาสตร์ ตรรกะ)
🔘 ภาษาไทย (ความเข้าใจในข้อความ การเขียนภาษาไทย)
🔘 ความรู้ทั่วไป เช่น สังคม เศรษฐกิจ การเมือง
🔸 ภาค ข. (ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง)
🔘 ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง เช่น กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
🔸 ภาค ค (สัมภาษณ์)
🔘 การประเมินบุคลิกภาพ ทัศนคติ ความเหมาะสมในตำแหน่ง
การสอบท้องถิ่น ประกอบด้วยการสอบ 3 ด้าน
🔸1. ความรู้ความสามารถทั่วไป
🔘 คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และความรู้ทั่วไป
🔸2. ความรู้เฉพาะตำแหน่ง
🔘 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบล พระราชบัญญัติเช่าที่ดิน
🔸3. การสอบสัมภาษณ์
🔘 การประเมินความเหมาะสมในงานและความรู้เกี่ยวกับการบริหารท้องถิ่น
สรุป:
เนื้อหาการสอบของทั้งสองประเภทมีความคล้ายคลึงกันในส่วนของความรู้ทั่วไป แต่การสอบท้องถิ่นเน้นหนักเรื่องกฎหมายและระเบียบ
ที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นมากกว่า
เกณฑ์การสอบผ่าน
🔸 การสอบ ก.พ.
🔘 ภาค ก. ต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 60% ในแต่ละส่วนของข้อสอบ
🔘 ภาค ข. และ ภาค ค เกณฑ์คะแนนอาจแตกต่างไปตามตำแหน่ง
🔸 การสอบท้องถิ่น
🔘 ผู้สอบต้องผ่านเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่กำหนดในแต่ละส่วน เช่น 60% หรือมากกว่า
🔘 การสอบสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนสำคัญในการพิจารณาผู้เหมาะสม
พื้นที่ปฏิบัติงาน
🔸 การสอบ ก.พ.
🔘 ผู้ที่สอบผ่านสามารถสมัครงานในหน่วยงานราชการใดก็ได้ที่เปิดรับทั่วประเทศ และอาจมีการย้ายที่ทำงานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ
🔸 การสอบท้องถิ่น
🔘 ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับการบรรจุในพื้นที่ที่สมัครไว้เท่านั้น เช่น หากสมัครในเทศบาลแห่งหนึ่ง จะต้องทำงานในเทศบาลนั้น
สรุป: การสอบ ก.พ. ให้ความยืดหยุ่นในเรื่องของพื้นที่ปฏิบัติงาน ในขณะที่การสอบท้องถิ่นเน้นการทำงานเฉพาะในพื้นที่ที่สมัคร
พื้นที่ปฏิบัติงาน
🔸 การสอบ ก.พ.
🔘 เปิดโอกาสให้เข้าทำงานในหน่วยงานส่วนกลางหรือภูมิภาค
🔘 มีความหลากหลายในตำแหน่งงานและสายงาน
🔘 มีโอกาสเติบโตในระบบราชการระดับประเทศ
🔸 การสอบท้องถิ่น
🔘 มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่และชุมชน
🔘 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานใกล้บ้านหรือในพื้นที่ที่ตนเองอาศัยอยู่
🔘 ส่งเสริมความผูกพันระหว่างบุคลากรกับชุมชน
ข้อสรุปและคำแนะนำ
🔘หากคุณต้องการทำงานในระบบราชการระดับประเทศและมีโอกาสเปลี่ยนแปลงหรือย้ายหน่วยงาน การสอบ ก.พ. เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
🔘 หากคุณต้องการทำงานในพื้นที่ที่คุณคุ้นเคยหรืออยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน การสอบท้องถิ่นจะตอบโจทย์มากกว่า
การเลือกสอบ
ควรพิจารณาจากความสนใจและเป้าหมายในอาชีพ รวมถึงความพร้อมในการเตรียมตัวสำหรับเนื้อหาเฉพาะของการสอบแต่ละประเภท