📌 เรียนจบอะไรถึงจะได้เป็นตำรวจ
ไม่ว่าน้องจะมีวุฒิการศึกษาอะไร ก็สามารถสมัครสอบเป็นตำรวจได้ตามความใฝ่ฝันที่อยากเป็นตำรวจกันเลยทีเดียว แต่ต้องอย่าลืมว่า
ข้าราชการตำรวจนั้นจะมีลำดับขั้นตามหน้าที่ ตำแหน่ง ความรับผิดชอบที่ต่างกันออกไป ในส่วนนี้น้องสามารถพิจารณาได้เลยว่า อยากจะใช้
วุฒิการศึกษา มัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไปหรือไม่ หรืออยากจะศึกษาเล่าเรียน เริ่มจากการเข้าศึกษาหลักสูตรนายร้อยก่อน หรือต้องการใช้
วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีเข้าสมัครสอบเพื่อเป็นนายสิบตำรวจ
พี่แนะนำเป็นคีย์ลัดสอบเข้าตำรวจ ในการสรุปเข้มหลักสูตรนายสิบตำรวจไว้ที่นี่แล้ว น้องสามารถสืบค้นบทความต่างๆ เพื่อศึกษาเรียนรู้ได้ด้วย
ตัวเอง หรือต้องการทำคีย์ลัดให้ตรงประเด็นถึงแนวข้อสอบการสอบนายสิบตำรวจ ก็สามารถทักทายมาสอบถามพูดคุยกับพี่ๆ ได้เช่นเดียวกัน
เริ่มต้นจากอยากเป็นตำรวจ อยากเริ่มเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
บอกเลยว่าการเป็นตำรวจนั้นไม่จำกัดเพศครับ เพียงแค่มีระดับความรู้ มีความสามารถและร่างกายสมบูรณ์พร้อม ก็สามารถเป็นตำรวจได้
🚩 คณะที่เหมาะสมกับน้องที่อยากเป็นตำรวจ
1. คณะรัฐศาสตร์/คณะนิติศาสตร์
เหมาะมากหากน้องต้องการเป็นนายร้อยตำรวจในสังกัดการป้องกันอาชญากรรม สืบสวนสอบสวน สายงานยุติธรรมและความปลอดภัย
เป็นต้น จะได้รับยศ สิบตำรวจตรี เมื่อเข้ารับราชการครบ 1 ปี จึงจะได้รับสิทธิ์สอบเข้าโรงเรียนนายน้อยตำรวจ (อายุต้องไม่เกิน 25 ปี)
2. คณะรัฐประศาสนศาสตร์
เหมาะมากหากน้องมีความสนใจอยากเป็นตำรวจในสายงานวางแผน บริหาร ป้องกันปราบปราม เป็นต้น จะได้รับยศ สิบตำรวจตรี
เมื่อเข้ารับราชการครบ 1 ปี จึงจะได้รับสิทธิ์สอบเข้าโรงเรียนนายน้อยตำรวจ (อายุต้องไม่เกิน 25 ปี)
3. คณะวิทยาศาสตร์/เคมี ฟิสิกส์ จุลชีววิทยา
เหมาะมากสำหรับน้องที่อยากเป็นตำรวจสายงานพิสูจน์หลักฐาน จะได้รับยศ ร้อยตำรวจตรี
4. คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
เหมาะมากสำหรับน้องที่อยากเป็นตำรวจสายบัญชี ไม่ว่าจะด้านอำนวยการ ธุรการและอื่นๆ อีกมากมายเกี่ยวกับงานด้านบัญชีใน
สำนักงานตำรวจนั่นเอง
5. คณะดุริยางค์/ดนตรี
เหมาะมากสำหรับน้องที่อยากเป็นตำรวจสายกองดุริยางค์ จะได้รับยศ สิบตำรวจตรี เมื่อรับราชการครบ 1 ปี จะสามารถสอบเข้า
โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ (อายุต้องไม่เกิน 25 ปี)
นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรปริญญาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป ที่แต่ละมหาวิทยาลัยได้
เปิดหลักสูตรให้น้องๆ เข้าไปศึกษาและได้วุฒิการศึกษาที่พร้อมจะออกไปทำงาน สอบเข้าการเป็นตำรวจได้เลย อย่างเช่น
🔸 ระดับปริญญาตรี
• มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา (สาขาบริหารงานตำรวจและกระบวนการยุติธรรม
• มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา (สาชาวิชาการบริหารงานตำรวจ)
🔸 ระดับปริญญาโท
• มหาวิทยาลัยรังสิต (สาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม)
• มหาวิทยาลัยบูรพา (สาขาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม)
🔸 ระดับปริญญาเอก
• มหาวิทยาลัยรังสิต (สาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม)
• นอกจากนี้หากน้องจบการศึกษาในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี
สอบเข้าศึกษาต่อตำรวจโดยใช้วุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 | ประกาศนียบัตรวิชาชีพ |
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
1. โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ส่วนตำรวจน้ำ หลักสูตร 2 ปี
คุณสมบัติของผู้เข้าสอบมีดังนี้
1. อายุ 17-20 ปี
2. เพศชาย
3. จบการศึกษาระดับชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 | ประกาศนียบัตรวิชาชีพ | ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับยศ สิบตำรวจตรี และบรรจุเข้าทำงานในส่วนงานตำรวจน้ำ สำนักตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้เมื่อรับราชการ
ครบระยะเวลา 1 ปี สามารถสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ (อายุต้องไม่เกิน 25 ปี)
2. สอบเป็นนายร้อยตำรวจหญิง หลักสูตร 4 ปี
คุณสมบัติของผู้เข้าสอบมีดังนี้
1. อายุ 16-21 ปี
2. เพศหญิง
3. จบการศึกษาระดับชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 | ประกาศนียบัตรวิชาชีพ | ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับวุฒิปริญญาตรี สาขารัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต และได้รับยศร้อยตำรวจหญิง พร้อมบรรจุเข้าทำงานในส่วนงาน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3. สอบเข้านายสิบตำรวจ หลักสูตร 1 ปี
คุณสมบัติของผู้เข้าสอบมีดังนี้
1. อายุ 18-27 ปี
2. โสด
3. เพศหญิง มีความสูงตั้งแต่ 150 เซนติเมตร เป็นต้นไป
4. เพศชาย ผู้อยากเป็นตำรวจสายปราบปราม จะต้องมีความสูง 160 เซนติเมตร เป็นต้นไป
5. จบการศึกษาระดับชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 | ประกาศนียบัตรวิชาชีพ | ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
การเปิดรับสมัครสอบนั้นขึ้นอยู่กับงบ
ประมาณ และความประสงค์จะเปิดรับในแต่ละหน่วยงานที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเรียนจบหลักสูตรแล้วจะได้รับยศ สิบตำรวจตรี
และมีโอกาสสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (อายุต้องไม่เกิน 25 ปี)
4. สอบเข้าวิทยาลัยพยาบาลตำรวจ (ผู้ช่วยพยาบาล) หลักสูตร 1 ปี
คุณสมบัติของผู้เข้าสอบมีดังนี้
1. อายุ 16-45 ปี
2. เพศหญิง มีความสูงตั้งแต่ 150 เซนติเมตร เป็นต้นไป หนักไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม
3. เพศชาย ผู้อยากเป็นตำรวจสายปราบปราม จะต้องมีความสูง 160 เซนติเมตร เป็นต้นไป รอบอกไม่ต่ำกว่า 77 เซนติเมตร
4. จบการศึกษาระดับชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 | ประกาศนียบัตรวิชาชีพ | ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตร
ผู้ช่วยพยาบาล สามารถนำไปสอบใบประกอบวิชาชีพได้ในระดับต่อไป
หากมีตำแหน่งว่างจึงจะได้รับโอกาสในการพิจารณาเข้าเป็นผู้ช่วยพยาบาล
ในสังกัด
5. วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ หลักสูตร 4 ปี
คุณสมบัติของผู้เข้าสอบมีดังนี้
1. อายุ 16-25 ปี
2. เพศหญิง มีความสูงตั้งแต่ 155 เซนติเมตร เป็นต้นไป หนักไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม
3. จบการศึกษาระดับชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สาขาวิทย์ – คณิต
4. ใช้คะแนน O-Net | GAT/PAT
เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญาบัตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถนำไปสอบใบ
ประกอบวิชาชีพได้ในระดับต่อไป หากมีตำแหน่งว่างจึงจะได้รับโอกาสในการพิจารณาเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ
สอบเข้าศึกษาต่อตำรวจโดยใช้วุฒิการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
1. โรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าตำรวจ
เปิดหลักสูตรให้น้องๆ ที่อยากเป็นตำรวจได้ทำการสอบเข้าเพื่อทำตามความฝันได้ โดยใช้เวลาในการศึกษาตลอดหลักสูตรใช้เวลา 2 ปีและจะได้รับ
วุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิทย์-คณิต
เมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถใช้ในการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่โรงเรียนนาย
ร้อยตำรวจ โดยไม่ต้องสอบเข้าได้อีกด้วย และเมื่อจบการศึกษาในโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ยังจะได้บรรจุเข้าทำงานที่
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เลย
2. โรงเรียนเตรียมทหาร เหล่าตำรวจน้ำ
เปิดหลักสูตรให้น้องๆ ที่อยากเป็นตำรวจได้ทำการสอบเข้าเพื่อทำตามความฝันได้ โดยใช้เวลาในการศึกษาตลอดหลักสูตรใช้เวลา 2 ปีและจะได้
รับวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิทย์-คณิต
เมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถใช้ในการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่โรงเรียน
นายเรือ โดยไม่ต้องสอบเข้าได้อีกด้วย และเมื่อจบการศึกษาในโรงเรียนนายเรือแล้ว ยังจะได้บรรจุเข้าทำงานในส่วนงานกองตำรวจน้ำ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในยศร้อยตำรวจตรี
การสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ทั้ง 2 ที่นั้น จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. อายุ 16-18 ปี
2. เพศชาย
3. จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4)
เห็นแบบนี้แล้วพอจะเข้าใจและมีทางเลือกให้ตัวเองกันได้แล้วใช่ไม๊ครับ แน่นอนว่าเมื่อน้องๆ รู้แนวทางว่าตัวเองอยากเป็นตำรวจแบบไหน
อยากสอบนายสิบตำรวจ อยากเป็นนายสิบตำรวจหญิง ในสังกัดใด น้องสามารถเลือกคณะ การเรียน การสอบเข้าได้ตำรวจได้จากข้อมูลเหล่านี้
และหากน้องต้องการคีย์ลัดการสอบตำรวจ สามารถติดต่อสอบถามพี่และทีมงานมาได้ตลอดครับ พี่ได้จัดเตรียมสรุปเข้ม หลักสูตรนายสิบ
ตำรวจไว้มากมายครับ
การเตรียมตัวสอบตำรวจ
🔹จัดระเบียบเวลาอย่างเป็นระบบ
หมายความว่าน้องๆ จำเป็นต้องฝึกระเบียบวินัยด้านชีวิตประจำวันตั้งแต่ตอนนี้ครับ ทั้งเวลาตื่นนอน
เวลาทานอาหาร เวลาอ่านหนังสือ เวลาออกกำลังกาย และที่สำคัญเวลาในการเข้าสำคัญ การช่วยเหลืองานภายในครอบครัว
รวมทั้งเวลาพักผ่อน เพื่อให้น้องคุ้นเคยกับกระบวนความคิดในวิถีปฏิบัติ เป็นการฝึกวินัยเบื้องต้นครับ
🔹จัดระเบียบความคิดอย่างเป็นระบบ
เมื่อน้องมีการจัดตารางเวลาในชีวิตประจำวันแล้ว ทีนี้ก็มาถึงกระบวนการความคิด ที่มีความสำคัญมากๆ กระบวนการคิดอย่างเป็นระบบจะช่วย
ส่งเสริมให้น้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีและรวดเร็วครับ ความผิดพลาดจะลดน้อยลง ซึ่งนับเป็นข้อดีที่สำคัญของบทบาทหน้าที่ข้าราชการ
ตำรวจอย่างมาก ในส่วนนี้น้องสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการลองจดลำดับความสำคัญของแต่ละเรื่องออกมา อะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง
ฝึกแยกแยะ เหตุ และผล ของเนื้อหาในบทเรียน ส่วนนี้จะช่วยให้น้องเข้าใจและจับใจความสำคัญได้เป็นอย่างดีอีกด้วยครับ
🔹ฟิตร่างกายให้พร้อม
พี่บัสมักจะเน้นย้ำเสมอว่า นอกจากความรู้ ความสามารถแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญก็คือความพร้อมของร่างกายที่การสอบตำรวจในหลายสาย
นั้นจำเป็นต้องผ่านการทดสอบร่างกายครับ ดังนั้นหากน้องไม่เตรียมตัว ไม่เตรียมความพร้อมร่างกาย ก็มีโอกาสที่จะสอบไม่ผ่านการเป็นตำรวจ
หรือแม้แต่การสอบเข้าเรียนตำรวจครับ
🔹พักผ่อนให้เพียงพอ
ในส่วนนี้คือการได้พักผ่อน นอนหลับอย่างเต็มที่เพื่อให้เซลล์สมองได้ทำงาน เกิดการคิด ความจำอย่างมีประสิทธิภาพ การนอนไม่พอมีผลต่อ
สมองในหลายด้าน ดังนั้น ในการจัดระเบียบเวลาอย่างเป็นระบบนั้น น้องก็ควรจัดเวลานอนพักผ่อนให้เพียงพอด้วยครับ
🔹ทบทวนเนื้อหา
ในส่วนเนื้อหานี้ บทเรียนที่ผ่านมาตลอดหลักสูตรที่น้องได้ร่ำเรียนในโรงเรียน มีมากมาย น้องอาจจะงงว่าควรเริ่มจากตรงไหน ซึ่งในส่วนนี้
ทางพี่บัสและทีมงาน ได้เตรียมหลักสูตรนายสิบตำรวจ ซึ่งจะเป็นคีย์ลัดสอบเข้าตำรวจให้น้องเข้าใจง่าย จำง่าย ตรงประเด็น และไม่ต้องเสียเวลา
ทบทวนเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องครับ ได้ใช้เวลาในการทบทวนเนื้อหาเพื่อจดจำทำความเข้าใจอย่างตรงประเด็น จะยิ่งช่วยให้น้องเตรียมความพร้อม
ได้แม่นยำมากขึ้นนั่นเอง
🔹บันทึกโน๊ต
ในแต่ละคนมีกระบวนการจดจำที่ไม่เหมือนกันครับ บางคนจำจดด้วยภาพ บางคนจดจำด้วยเสียง และยังมีอีกหลายคนที่ไม่ค่อยจำอะไรเลย
ดังนั้นด้วยวิธีข้างต้นที่พี่บัสได้แนะนำไปนั้นจะช่วยให้น้องเปิดทางกระบวนการสมองให้จดจำได้เป็นอย่างดี และการบันทึกโน๊ต
จดโน๊ตนั้นจะยิ่งเป็นการกระตุ้น และสมองในส่วนความจำ ให้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเองและยังช่วยให้น้องทำความเข้าใจและสามารถอธิบายได้
อย่างง่ายดาย รวดเร็วด้วยครับ
ทบทวนเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องครับ ได้ใช้เวลาในการทบทวนเนื้อหาเพื่อจดจำทำความเข้าใจอย่างตรงประเด็น จะยิ่ง
ช่วยให้น้องเตรียมความพร้อมได้แม่นยำมากขึ้นนั่นเอง
🔹อ่านหนังสือและทบทวน ในเวลาที่อยากจะทำ
เมื่อน้องมีความตั้งใจจะยิ่งช่วยทำให้ความจำ ทำความเข้าใจเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น เมื่อเราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างทุกด้านของเราจะเปิดทางให้
ความพร้อมไปสู่ความสำเร็จครับ ซึ่งข้อนี้ จะส่งเสริมกับการจัดระเบียบเวลาให้มีวินัยนั่นเอง เมื่อน้องได้จัดระเบียบเวลา ได้คุ้นเคยแล้ว ร่างกาย
และสมองก็จะมีความพร้อมในช่วงเวลาที่น้องกำหนดอย่างมีระบบนั่นเอง
🔹7 เทคนิคติวข้อสอบตำรวจเป็นวิธีที่ง่าย ให้น้องๆ ไปฝึกทำกันได้ ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับความฝันอยากเป็นตำรวจเท่านั้น
แต่น้องสามารถนำไปใช้ได้กับทุกความฝัน เป็นแนวทางสู่ความสำเร็จในอาชีพหรือด้านอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายครับ
พี่บัส
เป็นกำลังใจให้น้องเดินหน้าสู่ความสำเร็จในทุกความฝัน และแน่นอนหากอยากเป็นตำรวจ หรือกำลังเตรียมตัวในการสอบ
นายสิบตำรวจ พี่บัสและทีมงานพร้อมที่จะปรึกษา แนะนำแนวทางและช่วยติวสอบนายสิบตำรวจให้น้องได้ สนใจทักทายได้
ทุกช่องทางด้านล่างนี้ครับผม
การเตรียมตัวสอบตำรวจ
🔹 นายสิบตำรวจปราบปราม กับภาระทางทหาร
✅ อายุ 18 ปี ขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน [ มี สด.9 ] จะเรียน รด.หรือไม่เรียน ก็สมัครได้
✅ อายุ 19 ปี ขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน [ มี สด.9 ] จะเรียน รด.หรือไม่เรียน ก็สมัครได้
✅ อายุ 20 ปี เรียน รด.ปี 3 [ มี สด.8 ] สมัครได้
✅ อายุ 20 ปี ไม่ได้เรียน รด. ต้องเกณฑ์ทหารปี 2563 สมัครไม่ได้
✅ อายุ 21 ปี จับได้ใบดำ [ มี สด.43 ] สมัครได้
✅ อายุ 21 ปี จับได้ใบแดง ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ สมัครไม่ได้
✅ เป็นทหารเกณฑ์อยู่ ปลดภายในวันที่บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ สมัครได้
✅ เป็นทหารเกณฑ์อยู่ ปลดหลังวันที่บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ สมัครไม่ได้
✅ ปลดทหารเกณฑ์แล้ว [ มี สด.8 ] สมัครได้
✅ เกณฑ์ทหารแล้ว [ มี สด.43 ] สมัครได้
✅ ผ่อนผันทหาร สมัครไม่ได้
✅ หนีทหาร สมัครไม่ได้
*** อาจมีการเปลี่ยนแปลง รอประกาศอย่างเป็นทางการ อีกครั้ง ***
สอบรอบที่ 1 ภาควิชาการ [ 150 ข้อ 4 ตัวเลือก ฝนด้วย 2B ]
🔹 วิชาที่ใช้สอบ นายสิบตำรวจปราบปราม
• ความสามารถทั่วไป [คณิตศาสตร์] 30 ข้อ
• ภาษาไทย 25 ข้อ
• ภาษาอังกฤษ 30 ข้อ
• ความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 25 ข้อ
• กฎหมายที่ประชาชนควรรู้ 20 ข้อ
• สังคมฯ และความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน 20 ข้อ
*** รวม 150 ข้อ 150 คะแนน ใช้เวลาทำข้อสอบ 3 ชั่วโมง ***
สอบรอบที่ 2 สอบพละ
• วิ่ง 1,000 เมตร
• ว่ายน้ำ 25 เมตร
• วิ่งระยะสั้น
• วิ่งกลับตัว/วิ่งเก็บของ
• ยืนกระโดดไกล
สอบรอบที่ 2 รอบสัมภาษณ์
• สอบสัมภาษณ์
• ตรวจร่างกาย
• ทดสอบสุขภาพจิต
• ตรวจสอบคุณสมบัติ ประวัติและความประพฤติ
• เกณฑ์ คือ ผ่าน / ไม่ผ่าน
📍 หลักฐานที่ใช้สมัคร นายสิบตำรวจ ปราบปราม
• รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว หน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่น ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน + บัตรประชาชนเท่านั้น สภาพสมบูรณ์ อักษรชัดเจน ไม่หมดอายุ
[ใช้บัตรอื่นแทนไม่ได้] สแกนภาพ
• ค่าสมัคร 550 บาท + ค่าธรรมเนียมการสมัคร 30 บาท ชำระที่เคาท์เตอร์ ธ.กรุงไทย เท่านั้น
• สมัครแล้ว ตรวจสอบสถานะได้ทันที ชำระเงินแล้วตรวจสอบสถานะได้ในวันถัดไปหลังเที่ยง