ทดลองเรียน ติวสอบราชการ ได้สายงานมูลค่า  590 บาท “ฟรี”

เกณฑ์คะแนนการสอบผ่าน ก.พ.

เกณฑ์คะแนนการสอบผ่าน ก.พ.

📌 รูปแบบการสอบ

การสอบภาค ก ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้สมัครต้องผ่านก่อนเข้าสู่กระบวนการบรรจุ

เข้ารับราชการในหน่วยงานรัฐ การกำหนดเกณฑ์สอบผ่านสำหรับผู้สมัครในแต่ละระดับวุฒิการศึกษา เช่น ปวช., ปวท./ปวส./อนุปริญญา และ

ปริญญาตรี จะมีความแตกต่างในด้านเนื้อหาและระดับความยากง่าย โดย ก.พ. กำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่ผู้สมัครต้องทำได้ในแต่ละส่วนเพื่อให้

ถือว่าสอบผ่าน รวมถึงเนื้อหาที่ต้องศึกษาอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ผู้สมัครมีความพร้อมและประสบความสำเร็จในการสอบการสอบ ก.พ. เป็นขั้น

ตอนสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการในประเทศไทย ถือเป็นเครื่องมือในการประเมินความสามารถพื้นฐาน เช่น การคิดวิเคราะห์

การใช้ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ การเตรียมตัวสอบอย่างถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญ

เพื่อเพิ่มโอกาสสอบผ่านและได้รับโอกาสในสายงานราชการที่มั่นคง

การเตรียมตัวสอบ ก.พ. ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องอาศัยการวางแผนอย่างละเอียดและความพยายามอย่างต่อเนื่อง ผู้สมัครทุกระดับ

วุฒิการศึกษาควรให้ความสำคัญกับการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง เพื่อปรับกลยุทธ์การเรียนรู้และการฝึกฝนให้เหมาะสม

การจัดสรรเวลาในการอ่านหนังสือและฝึกทำข้อสอบจำลองถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสสอบผ่าน การใช้เทคนิคการจำแนวข้อสอบ

หรือเน้นหัวข้อสำคัญที่มีโอกาสออกสอบบ่อย ๆ เช่น การคิดวิเคราะห์และการจับใจความ สามารถช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมตัวได้

นอกจากนี้ การทบทวนความรู้พื้นฐานในแต่ละวิชาที่สอบ เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

โดยเฉพาะการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจต้องใช้เวลามากกว่าวิชาอื่น ๆ เนื่องจากเป็นส่วนที่ผู้สมัครหลายคนมักพบว่าเป็นอุปสรรค การอ่าน

บทความภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับราชการหรือสังคม ช่วยเพิ่มความคุ้นเคยกับศัพท์และรูปแบบการเขียนที่อาจปรากฏในข้อสอบ

สุดท้ายนี้ การเตรียมตัวสอบที่ดีควรเริ่มตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการศึกษาเนื้อหาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จ

ในการสอบ ก.พ. ไม่เพียงช่วยเปิดประตูสู่โอกาสในสายงานราชการที่มั่นคง แต่ยังเป็นการพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของผู้สมัครใน

การพัฒนาตนเองอีกด้วย

การสอบ ก.พ. (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) เป็นการสอบที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการในประเทศไทย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความสามารถ ความรู้ และคุณสมบัติของผู้สมัครว่ามีความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งราชการหรือไม่

การสอบนี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้:

📌 ภาค ก: การวัดความรู้พื้นฐาน (General Aptitude Test)

การสอบ ก.พ. (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) เป็นการสอบที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการในประเทศไทย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความสามารถ ความรู้ และคุณสมบัติของผู้สมัครว่ามีความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งราชการหรือไม่

การสอบนี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้:

📖 คณิตศาสตร์

➡️ การคำนวณและการแก้ปัญหาโจทย์ตัวเลข เช่น ร้อยละ อัตราส่วน และสมการ

➡️ การวิเคราะห์ข้อมูลจากตาราง แผนภูมิ และกราฟ

➡️ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เช่น การจัดลำดับ การหาความสัมพันธ์

📖 ภาษาไทย

➡️ การอ่านจับใจความและการวิเคราะห์บทความ

➡️ การเรียงลำดับข้อความและการตีความข้อความ

➡️ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เช่น การจัดลำดับ การหาความสัมพันธ์

📖 ภาษาอังกฤษ

➡️ การอ่านและการทำความเข้าใจเนื้อหาในภาษาอังกฤษ

➡️ การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง เช่น Tense, Subject-Verb Agreement

➡️ คำศัพท์พื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวันและงานราชการ

📌 ความสำคัญของภาค ก

การสอบในส่วนนี้เป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่ผู้สมัครทุกคนต้องสอบผ่านก่อนถึงจะมีสิทธิ์สอบในภาค ข และภาค ค ดังนั้นการเตรียมตัวใน

ส่วนนี้ควรเน้นการฝึกทำข้อสอบเก่า การทบทวนความรู้พื้นฐาน และการจับเวลาฝึกทำข้อสอบเพื่อให้ทันเวลาในวันสอบจริง

📌 ภาค ข: การวัดความรู้เฉพาะตำแหน่ง (Professional Aptitude Test)

ภาค ข เป็นการสอบที่ออกแบบมาเพื่อประเมินความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่ผู้สมัครต้องการ โดยเนื้อหาจะเจาะจงตามสายงาน

📖 กฎหมายและระเบียบราชการ

🔖 สำหรับตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เช่น นิติกร จะต้องมีความรู้ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง และระเบียบราชการ

🔖 ความเข้าใจในพระราชบัญญัติสำคัญ เช่น พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร

📖 ทักษะสายงาน

🔖 สายงานบัญชี: การวิเคราะห์งบการเงิน, การคำนวณภาษี, และการทำบัญชี

🔖 สายงานวิศวกรรม: การออกแบบโครงสร้าง, การวิเคราะห์ระบบ และการคำนวณที่เกี่ยวข้อง

🔖 สายงานการศึกษา: ความรู้ด้านจิตวิทยาและการจัดการศึกษา

📌 ความสำคัญของภาค ข

เนื้อหาในภาคนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าผู้สมัครมีความพร้อมและเหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการหรือไม่ ดังนั้นจึงควรศึกษาเนื้อหาเฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง

กับ ตำแหน่งที่สมัครให้ลึกซึ้ง รวมถึงการฝึกปฏิบัติกับกรณีศึกษา (Case Study)

📌 ความสำคัญของภาค ค

ภาค ค: การสัมภาษณ์เพื่อประเมินทักษะ บุคลิกภาพ และความเหมาะสม (Personality & Suitability Assessment)

ภาค ค เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการประเมินผู้สมัคร โดยเน้นการสัมภาษณ์เพื่อพิจารณาคุณสมบัติที่ไม่สามารถวัดได้จากข้อสอบ

เช่น บุคลิกภาพ ทักษะการสื่อสาร และความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การสอบสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้สมัครต้องแสดงให้

คณะกรรมการเห็นถึงความเหมาะสมทั้งในด้านบุคลิกภาพและความสามารถในการปรับตัวกับงานราชการ การเตรียมตัวในส่วนนี้ควรฝึกตอบ

คำถามทั่วไปและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรที่สมัคร

🎉 การเตรียมตัวสอบ ก.พ. ให้สำเร็จ

🪄 วางแผนการอ่านหนังสือ: แบ่งเวลาอ่านตามหัวข้อในแต่ละภาค

🪄 ทำข้อสอบเก่า: เพื่อฝึกทักษะและทำความเข้าใจกับรูปแบบข้อสอบ

🪄 ฝึกฝนทักษะเฉพาะทาง: สำหรับภาค ข ควรศึกษาเนื้อหาเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง

🪄 เตรียมตัวสัมภาษณ์: ฝึกการพูดและตอบคำถามให้มั่นใจ

การสอบ ก.พ. เป็นโอกาสสำคัญสำหรับการเริ่มต้นในสายงานราชการ ผู้สมัครควรเตรียมตัวอย่างรอบคอบและต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาส

ในการประสบความสำเร็จ

📌 บุคลิกภาพและการแสดงออก

🔖 การแต่งกายและมารยาทที่เหมาะสม

🔖 การพูดจาและการสื่อสารอย่างมั่นใจ

🔖 ทัศนคติและจิตวิทยาในการทำงาน

📌 ความสามารถเฉพาะด้าน

🔖 การตอบคำถามเกี่ยวกับตำแหน่งงานและความเข้าใจในหน้าที่

🔖 การจำลองสถานการณ์เพื่อทดสอบการตัดสินใจและแก้ปัญหา

📌 โครงสร้างข้อสอบ ก.พ.

ข้อสอบ ก.พ. ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ซึ่งแต่ละส่วนมีเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่ต้องผ่านดังนี้:

💡 วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนขั้นต่ำ 60%)

🔖 การคิดวิเคราะห์ (Numerical Reasoning): ข้อสอบเน้นการแก้โจทย์คณิตศาสตร์เชิงตรรกะ เช่น สมการ ค่าสถิติ การวิเคราะห์ข้อมูล และ

การแก้ปัญหาทางตัวเลข

🔖 การวิเคราะห์เชิงภาษา (Verbal Reasoning): ข้อสอบเน้นความสามารถในการอ่านจับใจความ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของข้อความ

และความถูกต้องของภาษา

💡 วิชาภาษาไทย (คะแนนขั้นต่ำ 60%)

🔖 ความเข้าใจภาษาไทย: การวิเคราะห์ข้อความ การจับใจความ การใช้คำและประโยคที่ถูกต้อง

🔖 การเขียนภาษาไทย: การเรียบเรียงข้อความ และการใช้คำที่เหมาะสม

💡 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนขั้นต่ำ 50%)

🔖 ความเข้าใจภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension): การอ่านบทความและตอบคำถาม

🔖 การใช้ภาษาอังกฤษ (Language Usage): การเติมคำในช่องว่าง (Cloze Test) ไวยากรณ์ (Grammar) และคำศัพท์ (Vocabulary)

ผู้สมัครต้องทำคะแนนผ่านเกณฑ์ในทั้ง 3 ส่วนข้างต้นจึงจะถือว่าสอบผ่าน

📌 เกณฑ์คะแนนขั้นต่ำสำหรับแต่ละระดับวุฒิ

เกณฑ์การสอบผ่าน ก.พ. มีความเหมือนกันในทุกระดับวุฒิการศึกษา แต่เนื้อหาและระดับความยากง่ายอาจแตกต่างกันในบางประเด็น

เพื่อให้เหมาะสมกับระดับความรู้ที่คาดหวังในแต่ละกลุ่ม ดังนี้

ระดับ ปวช.

🔖 เนื้อหาข้อสอบมีความซับซ้อนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับระดับสูงกว่า

🔖 มุ่งเน้นพื้นฐานการคิดคำนวณและการใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน

🔖 คะแนนขั้นต่ำ: ความสามารถทั่วไป: 60% ภาษาไทย: 60% ภาษาอังกฤษ: 50

ระดับ ปวท./ปวส./อนุปริญญา

🔖 มีการเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เชิงตรรกะและการแก้ปัญหา

🔖 ความยากของภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น เช่น การใช้คำศัพท์ที่หลากหลายและซับซ้อนกว่า

🔖 คะแนนขั้นต่ำ: ความสามารถทั่วไป: 60% ภาษาไทย: 60% ภาษาอังกฤษ: 50%

ระดับปริญญาตรี

🔖 ข้อสอบมีความซับซ้อนสูงที่สุดในทุกระดับ เช่น ข้อสอบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงซ้อน การวิเคราะห์เชิงภาษาแบบละเอียด และบทความภาษาอังกฤษ

ที่มีเนื้อหาเชิงวิชาการ

🔖 คะแนนขั้นต่ำ: ความสามารถทั่วไป: 60% ภาษาไทย: 60% ภาษาอังกฤษ: 50%

📌 ข้อแตกต่างของข้อสอบในแต่ละระดับ

🔖 เนื้อหา: ระดับ ปวช. และ ปวท./ปวส./อนุปริญญา จะมีเนื้อหาพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการคิดและการใช้ภาษา ส่วนระดับปริญญาตรีจะ

เพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เชิงวิชาการ

🔖 ความซับซ้อน: ระดับ ปริญญาตรีจะมีข้อสอบที่ซับซ้อนกว่า เนื่องจากคาดหวังความสามารถในการคิดวิเคราะห์เชิงลึก

📌 เคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบผ่าน

ศึกษาหลักเกณฑ์และเนื้อหาให้ครบถ้วน

🔖 ตรวจสอบเนื้อหาที่จะออกสอบในประกาศของ ก.พ.

🔖 ใช้แนวข้อสอบย้อนหลังเป็นแนวทางเพื่อทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบ

ฝึกทำข้อสอบให้ครบทุกส่วน

🔖 เน้นทำข้อสอบภาษาอังกฤษบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มทักษะและความมั่นใจ

🔖 ฝึกทำข้อสอบที่เกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์และการจับใจความภาษาไทย

จัดสรรเวลาในการอ่านหนังสือ

🔖 แบ่งเวลาอ่านหนังสือในแต่ละส่วนอย่างเหมาะสม โดยเริ่มจากส่วนที่ตนเองถนัดน้อยที่สุด

🔖 ฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการบริหารเวลาในวันสอบ

พักผ่อนและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนวันสอบ

🔖 พักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันสอบเพื่อให้มีสมาธิในการทำข้อสอบ

🔖 ตรวจสอบสถานที่สอบและเวลาเข้าสอบล่วงหน้า

การสอบ ก.พ. ในแต่ละระดับวุฒิการศึกษามีเกณฑ์การผ่านที่เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างในด้านเนื้อหาและความซับซ้อน ผู้สมัครทุกระดับต้อง

ทำคะแนนผ่านขั้นต่ำใน 3 ส่วน ได้แก่ ความสามารถทั่วไป ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยมีคะแนนขั้นต่ำ 60% ในวิชาความสามารถทั่วไปและ

ภาษาไทย และ 50% ในวิชาภาษาอังกฤษ การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้สมัครสามารถสอบผ่านได้

สำเร็จ

📌 เกณฑ์ผ่านระดับ ปริญญาโท

การสอบภาค ก ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ถือเป็นด่านแรกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการในหน่วยงานรัฐ

โดยในระดับปริญญาโท เกณฑ์การสอบผ่านนั้นมีความชัดเจนและเข้มงวด เนื่องจากผู้สมัครระดับนี้มักจะมีความรู้ความสามารถที่สูงขึ้น

การสอบจะมุ่งเน้นการประเมินศักยภาพในการคิดวิเคราะห์ การใช้ภาษา และความสามารถในการแก้ปัญหาในเชิงวิชาการ

📌 โครงสร้างข้อสอบ ก.พ. ระดับปริญญาโท

ข้อสอบภาค ก ระดับปริญญาโทถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

วิชาความสามารถทั่วไป (General Aptitude)

เน้นการวัดทักษะการคิดเชิงตรรกะและการวิเคราะห์ข้อมูล

🔖 ด้านการคิดคำนวณ (Numerical Reasoning): ข้อสอบเน้นการคำนวณเกี่ยวกับสมการ ค่าสถิติ สัดส่วน และโจทย์เชิงคณิตศาสตร์

🔖 ด้านการคิดวิเคราะห์ (Logical Reasoning): การวิเคราะห์เหตุผล ความสัมพันธ์ของข้อมูล และรูปแบบการเชื่อมโยงเหตุการณ์

เกณฑ์ผ่าน: ต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 60%

วิชาภาษาไทย (Thai Language)

วัดทักษะความสามารถด้านการใช้ภาษาไทยที่เหมาะสมในบริบททางราชการ

🔖 การอ่านและวิเคราะห์: การจับใจความ การวิเคราะห์ข้อความ และการสรุปความ

🔖 การใช้ภาษา: การเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ และการเลือกใช้คำอย่างเหมาะสม

เกณฑ์ผ่าน: ต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 60%

วิชาภาษาอังกฤษ (English Language)

เน้นการวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและการทำงาน

🔖 การอ่านจับใจความ (Reading Comprehension): การอ่านบทความและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา

🔖 การใช้ภาษาอังกฤษ (Language Usage): การเลือกคำศัพท์ที่เหมาะสม การเติมคำในช่องว่าง และความถูกต้องของไวยากรณ์

เกณฑ์ผ่าน: ต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 50%

📌 เกณฑ์การสอบผ่าน

ในการสอบ ก.พ. ระดับปริญญาโท ผู้สมัครต้องผ่านเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำในแต่ละส่วนของข้อสอบ ดังนี้:

🔖 วิชาความสามารถทั่วไป: ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 60%

🔖 วิชาภาษาไทย: ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 60%

🔖 วิชาภาษาอังกฤษ: ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 50%

ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องผ่านเกณฑ์ทั้ง 3 ส่วนข้างต้น หากไม่สามารถผ่านในส่วนใดส่วนหนึ่ง จะถือว่าสอบไม่ผ่าน

📌 ข้อแตกต่างของข้อสอบระดับปริญญาโท

ข้อสอบระดับปริญญาโทมีความแตกต่างจากระดับปริญญาตรีในหลายด้าน เนื่องจากคาดหวังความรู้และทักษะที่สูงขึ้น ดังนี้:

ระดับความซับซ้อน

🔖ข้อสอบระดับปริญญาโทมีความซับซ้อนสูงกว่า โดยเฉพาะในส่วนของการคิดวิเคราะห์และการคำนวณ

🔖 ภาษาอังกฤษเน้นเนื้อหาเชิงวิชาการ เช่น บทความที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร การพัฒนาองค์กร หรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา

ในสถานการณ์จริง

ความครอบคลุมของเนื้อหา

🔖 เนื้อหาในการคิดวิเคราะห์ครอบคลุมข้อมูลที่หลากหลายและซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ ตาราง และกราฟ

🔖 ภาษาไทยมุ่งเน้นการใช้ภาษาในบริบทของการทำงานราชการ เช่น การเขียนเชิงราชการและการใช้คำที่เหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ

การคาดหวังจากผู้สมัคร

🔖ผู้สมัครในระดับปริญญาโทต้องแสดงถึงความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล รวมถึงการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษในเชิงวิชาชีพ

📌 การเตรียมตัวสอบ ก.พ. ระดับปริญญาโท

ศึกษาเนื้อหาที่ออกสอบ

🔖 ศึกษาโครงสร้างข้อสอบที่ประกาศโดย ก.พ.

🔖 ฝึกทำแนวข้อสอบย้อนหลังเพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบและระดับความยาก

ฝึกฝนทักษะด้านภาษา

🔖 ภาษาไทย: อ่านบทความ วิเคราะห์ความหมาย และฝึกการเขียนเชิงราชการ

🔖 ภาษาอังกฤษ: ฝึกอ่านบทความที่มีเนื้อหาเชิงวิชาการและฝึกทำข้อสอบเกี่ยวกับไวยากรณ์และคำศัพท์

พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์

🔖 ฝึกทำโจทย์คณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการคิดเชิงตรรกะและการแก้ปัญหา

🔖 ฝึกวิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟและตาราง

จัดสรรเวลาในการอ่านหนังสือ

🔖 แบ่งเวลาอ่านหนังสือให้ครบทุกส่วน โดยเน้นส่วนที่ตนเองอ่อนแอ

🔖 ฝึกทำข้อสอบแบบจับเวลาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเวลาจริงในวันสอบ

การเตรียมตัวก่อนวันสอบ

🔖 ตรวจสอบสถานที่สอบและเวลาเข้าสอบล่วงหน้า

🔖 พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง

📌 ความสำคัญของเกณฑ์สอบผ่าน

เกณฑ์สอบผ่านช่วยให้มั่นใจว่าผู้สมัครมีความรู้และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานในหน่วยงานราชการ การกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำยัง

ช่วยคัดกรองบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งงานนั้น ๆ

📌 เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ ก.พ.

1.ศึกษาแนวข้อสอบ: ใช้แนวข้อสอบย้อนหลังเพื่อทำความคุ้นเคย

2.ฝึกทำข้อสอบ: ทำแบบฝึกหัดในทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนที่ตนเองไม่ถนัด

3.จัดตารางเวลา: แบ่งเวลาทบทวนเนื้อหาอย่างเหมาะสม

4.พักผ่อน: นอนหลับให้เพียงพอเพื่อเพิ่มสมาธิ

📌 เทคนิคการบริหารเวลาในห้องสอบ

1.อ่านคำสั่งอย่างละเอียด

2.ทำข้อสอบที่ง่ายที่สุดก่อน

3.ใช้เวลาที่เหลือทบทวนคำตอบ

4.หากพบข้อที่ยาก ให้วางข้ามไปก่อนแล้วกลับมาทำภายหลัง

📌 ความคาดหวังและโอกาสหลังสอบผ่าน ก.พ.

การสอบผ่าน ก.พ. เปิดโอกาสให้ผู้สมัครเข้าสู่กระบวนการสอบภาค ข และ ค เพื่อบรรจุเข้ารับราชการ

โอกาสนี้ช่วยให้ผู้ที่ผ่านการสอบสามารถเริ่มต้นเส้นทางอาชีพที่มั่นคงและมีความก้าวหน้าในระบบราชการ

📌 แหล่งข้อมูลและเอกสารสำหรับการเตรียมสอบ

1.แนวข้อสอบย้อนหลัง

2.เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ก.พ.

3.หนังสือคู่มือสอบ ก.พ. ที่มีเฉลยและคำอธิบายละเอียด

4.คลิปวิดีโอการสอนและเทคนิคทำข้อสอบ

📌 สรุป

เกณฑ์ผ่านการสอบ ก.พ. ระดับปริญญาโทกำหนดคะแนนขั้นต่ำในแต่ละส่วนอย่างชัดเจน ผู้สมัครต้องผ่านเกณฑ์ในทุกส่วนจึงจะถือว่าสอบผ่าน

ซึ่งหมายความว่าผู้สมัครจำเป็นต้องเตรียมตัวในทุกวิชาอย่างรอบคอบและไม่สามารถมองข้ามวิชาใดวิชาหนึ่งได้ การสอบระดับนี้มีความซับซ้อน

กว่าระดับปริญญาตรีอย่างชัดเจน เนื่องจากข้อสอบคาดหวังทักษะเชิงวิเคราะห์ การสรุปความ และการแก้ปัญหาในเชิงลึก โดยเฉพาะในเนื้อหาที่

เกี่ยวข้องกับการคิดเชิงตรรกะและการวิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟและตาราง การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและมุ่งเน้นความเข้าใจในเนื้อหาที่จะออก

สอบเป็นหัวใจสำคัญ ผู้สมัครควรเริ่มต้นจากการศึกษาข้อสอบตัวอย่างและแนวทางที่เคยออกสอบมาก่อน เพื่อทำความคุ้นเคยกับรูปแบบคำถาม

การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำข้อสอบจับเวลา จะช่วยให้สามารถบริหารเวลาได้ดีขึ้นในวันสอบจริง นอกจากนี้ การศึกษาภาษาอังกฤษ

เชิงวิชาการเพิ่มเติม เช่น การอ่านบทความและฝึกตอบคำถามเชิงลึก จะช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับข้อสอบภาษาอังกฤษ สำหรับผู้สมัคร

ระดับปริญญาโท การวางแผนการเรียนรู้และการฝึกฝนที่เป็นระบบถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เนื่องจากข้อสอบระดับนี้ออกแบบมาเพื่อประเมินความ

พร้อมของผู้สมัครในการปฏิบัติงานในระดับที่ต้องการความรับผิดชอบสูง การมีวินัยและความต่อเนื่องในการเตรียมตัวจะช่วยเพิ่มโอกาสให้

ผู้สมัครประสบความสำเร็จในสายงานราชการได้อย่างมั่นคง

Share !!!
Picture of เขียนโดย   พี่บัส GURU ACADEMY
เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY

เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่1 ของประเทศ

เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY
เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่ 1 ของประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอร์สติวสอบราชการ ออนไลน์

ที่สุด...แห่งคุณภาพ กว่า 10 ปี

ที่สุด…แห่งผลงานการันตีอันดับ 1

ที่สุด…แห่งความครบถ้วน จัดเต็มทุกวิชา

GURU ACADEMY คอร์สติวสอบราชการ

ประสบการณ์สอนมากกว่า 10 ปี มีลูกศิษย์มากกว่า 20,000 คน

เมนู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า