ทดลองเรียน ติวสอบราชการ ได้สายงานมูลค่า  590 บาท “ฟรี”

ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

คุณสมบัติ “ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน “

📌 คุณสมบัติ “ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน “ มีอะไรบ้าง?

ตำรวจสายพิสูจน์หลักฐานเป็นบุคลากรสำคัญในกระบวนการสืบสวนสอบสวน พวกเขาทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์หลักฐานทาง

นิติวิทยาศาสตร์เพื่อนำไปใช้ในการไขคดีอาชญากรรม ตั้งแต่การเก็บร่องรอยดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ คราบเลือด ไปจนถึงการ

วิเคราะห์เอกสารปลอมแปลงและข้อมูลดิจิทัล

ความสำคัญของนิติวิทยาศาสตร์

ในปัจจุบันนี้ ได้เกิดปัญหาทางด้านอาชญากรรมขึ้นมากมาย ซึ่งการที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมนั้นเป็น

เรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานมายืนยันให้สามารถพิสูจน์ความผิดได้อย่างชัดเจน ดังนั้นในประเทศ

ที่พัฒนาแล้ว อาทิเช่น ประเทศญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา จึงมีการนำเอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาใช้ในการ

ตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆให้ได้ผลที่ถูกต้องแท้จริงตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้ผลอย่างดียิ่งในการสืบสวนติดตามหาคนร้ายต่างๆ โดยเฉพาะ

ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น สามารถจับกุมคนร้ายได้ถึง 90% โดยการใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ค้นคว้าวิจัยและ

ผลิตขึ้นอย่างทันสมัย ผสานกับหลักนิติวิทยาศาสตร์นี้ ให้บรรลุผลได้เป็นอย่างมาก

หน้าที่หลักของตำรวจสายพิสูจน์หลักฐาน

แต่ละวันของตำรวจสายนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของคดี แต่โดยรวมแล้ว มีหน้าที่หลักดังนี้:

🚓 การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

✅ เข้าไปเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ เช่น ลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ เส้นผม หรือคราบเลือด

✅ จัดทำแผนที่สถานที่เกิดเหตุและบันทึกภาพถ่ายเพื่อใช้ในกระบวนการสอบสวน

ความสำคัญ

สถานที่เกิดเหตุเป็นแหล่งข้อมูลและหลักฐานที่สำคัญ การตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดรอบคอบจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจเหตุการณ์

ที่เกิดขึ้น และค้นหาหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอน

✅ การรักษาความปลอดภัย: กั้นบริเวณสถานที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนหรือการทำลายหลักฐาน

✅ การสังเกตการณ์: สังเกตลักษณะทั่วไปของสถานที่เกิดเหตุ บันทึกสภาพแวดล้อม และตำแหน่งของวัตถุต่างๆ

✅ การถ่ายภาพและวาดแผนผัง: บันทึกภาพถ่ายและวาดแผนผังของสถานที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการสอบสวน

✅ การค้นหาและเก็บรวบรวมหลักฐาน: ค้นหาและเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ เช่น ลายนิ้วมือ เส้นผม ขน เศษผ้า วัตถุพยานอื่นๆ

✅ การบันทึก บันทึกรายละเอียดของหลักฐานที่พบ ตำแหน่งที่พบ และวิธีการเก็บรวบรวม

✅ การวิเคราะห์หลักฐาน ตรวจสอบและเปรียบเทียบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการ วิเคราะห์ข้อมูลทางเคมี

ฟิสิกส์ และชีววิทยาที่เกี่ยวข้องกับคดี

ทักษะที่จำเป็นสำหรับตำรวจสายพิสูจน์หลักฐาน

ตำรวจสายพิสูจน์หลักฐานต้องมีทักษะเฉพาะทางหลายด้าน ได้แก่:

🔸 ความละเอียดรอบคอบและการสังเกตที่ดี เพื่อให้สามารถเก็บรวบรวมและวิเคราะห์หลักฐานได้อย่างแม่นยำ

🔸ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพื่อนำหลักฐานไปเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่น ๆ ในคดี

🔸 ทักษะการใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์เฉพาะทาง เช่น เครื่องตรวจลายนิ้วมือ หรือโปรแกรมวิเคราะห์ภาพถ่าย

🔸 ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะในสาขานิติวิทยาศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา และคอมพิวเตอร์

🔸ทักษะการสื่อสารและการเขียนรายงาน เพื่อจัดทำเอกสารที่ชัดเจนและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการพิจารณาคดี

เส้นทางการศึกษาสำหรับตำรวจสายพิสูจน์หลักฐาน

📌 ระดับปริญญาตรี

หากต้องการเข้าสู่สายงานนี้ ควรศึกษาด้าน นิติวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เคมี ชีววิทยา หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ

📌 การสอบเข้าตำรวจ

ผู้ที่ต้องการเป็นตำรวจสายพิสูจน์หลักฐานต้องสอบเข้าเป็นตำรวจผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยมีการเปิดสอบ

เฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับงานพิสูจน์หลักฐาน

📌 การฝึกอบรมเพิ่มเติม

หลังจากเข้ารับราชการแล้ว จะต้องผ่านการอบรมเฉพาะทางเกี่ยวกับนิติวิทยาศาสตร์และเทคนิคการพิสูจน์หลักฐาน

รายได้และสวัสดิการของตำรวจสายพิสูจน์หลักฐาน

🔸 เงินเดือนของตำรวจสายพิสูจน์หลักฐานเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 - 18,000 บาท (สำหรับชั้นประทวน) และสามารถเพิ่มขึ้น

ตามอายุงานและตำแหน่ง โดยระดับนายตำรวจสัญญาบัตรอาจมีรายได้สูงถึง 30,000 - 50,000 บาท ต่อเดือน นอกจากนี้ยังมี

สวัสดิการอื่น ๆ เช่น เบี้ยเลี้ยง ค่าครองชีพ เงินประจำตำแหน่ง ประกันสุขภาพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญ

ไลฟ์สไตล์และความท้าทายของอาชีพ

ตำรวจสายพิสูจน์หลักฐานมีตารางงานที่ไม่แน่นอน เนื่องจากต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในทุกสถานการณ์และอาจต้องทำงานนอก

เวลาปกติ นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น คดีฆาตกรรม หรืออุบัติเหตุร้ายแรง อย่างไรก็ตาม อาชีพ

นี้ให้ ความมั่นคง มีเกียรติ และเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความยุติธรรม

อยากเป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องทำอย่างไร?

📌 1. การสมัครและการสอบเข้า

หากต้องการเป็นตำรวจสายพิสูจน์หลักฐาน จะต้องสมัครสอบเข้ารับราชการตำรวจผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

โดยตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับพิสูจน์หลักฐานจะมีการเปิดรับเป็นระยะ ซึ่งต้องติดตามประกาศจาก สตช. อย่างใกล้ชิด

📌 2. วิชาที่ต้องสอบและเกณฑ์คะแนน

การสอบเป็นตำรวจสายพิสูจน์หลักฐานจะต้องผ่านการสอบข้อเขียนที่ครอบคลุมเนื้อหาต่อไปนี้:

✅ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบราชการตำรวจ

✅ วิทยาศาสตร์นิติวิทยาศาสตร์ (เช่น เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์)

✅ คณิตศาสตร์และสถิติ

✅ ภาษาอังกฤษ

✅ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์และเหตุผล

เกณฑ์คะแนน: ต้องผ่านคะแนนขั้นต่ำตามที่กำหนดในแต่ละวิชา และรวมคะแนนให้ได้ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด

📌 3. วุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสอบ

โดยทั่วไป วุฒิที่ใช้ในการสอบตำรวจสายพิสูจน์หลักฐาน ได้แก่:

✅ ปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น นิติวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เคมี ชีววิทยา เทคโนโลยีสารสนเทศ

✅ ต้องมีเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำตามที่กำหนด (ขึ้นอยู่กับประกาศรับสมัครในแต่ละปี)

📌 4. การฝึกอบรมเพิ่มเติม

หลังจากสอบผ่านและได้รับการบรรจุเป็นตำรวจแล้ว จะต้องผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางเกี่ยวกับนิติวิทยาศาสตร์และเทคนิคการ

พิสูจน์หลักฐาน รวมถึงการใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์เฉพาะทางในการวิเคราะห์หลักฐาน

คุณสมบัติที่ดีของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

ตำรวจสายพิสูจน์หลักฐานต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ดังนี้:

1. ความละเอียดรอบคอบและความแม่นยำ – ต้องสามารถสังเกตและวิเคราะห์หลักฐานที่ซับซ้อนได้

2. ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี – โดยเฉพาะในสาขานิติวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และคอมพิวเตอร์

3. ทักษะการคิดวิเคราะห์และเหตุผล – ต้องสามารถเชื่อมโยงหลักฐานและสรุปผลได้อย่างแม่นยำ

4. ทักษะการใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์เฉพาะทาง – เช่น เครื่องตรวจลายนิ้วมือ หรือโปรแกรมวิเคราะห์ภาพถ่าย

5. ทักษะการสื่อสารและการเขียนรายงาน – เพื่อจัดทำเอกสารที่ชัดเจนและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการพิจารณาคดี

6. ความสามารถในการทำงานภายใต้ความกดดัน – เพราะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น คดีฆาตกรรม

หรืออุบัติเหตุร้ายแรง

📍 ยศตำรวจมีอะไรบ้าง มีกี่ขั้น

ใครอยากเป็นตำรวจ คุณรู้หรือไม่ว่ายศตำรวจมีอะไรบ้าง มีกี่ขั้น ซึ่งมีดังนี้

🔸 ชั้นสัญญาบัตร

🔘 พลตำรวจเอก หรือ พล.ต.อ.

🔘 พลตำรวจโท หรือ พล.ต.ท.

🔘 พลตำรวจตรี หรือ พล.ต.ต.

🔘 พันตำรวจเอก หรือ พ.ต.อ

🔘 พันตำรวจโท หรือ พ.ต.ท.

🔘 พันตำรวจตรี หรือ พ.ต.ต.

🔘 ร้อยตำรวจเอก หรือ ร.ต.อ.

🔘 ร้อยตำรวจโท หรือ ร.ต.ท.

🔘 ร้อยตำรวจตรี หรือ ร.ต.ต.

🔸 ชั้นประทวน

🔘 ดาบตำรวจ หรือ ด.ต.

🔘 จ่าสิบตำรวจ หรือ จ.ส.ต.

🔘 สิบตำรวจเอก หรือ ส.ต.อ.

🔘 สิบตำรวจโท หรือ ส.ต.ท.

🔘 สิบตำรวจตรี หรือ ส.ต.ต.

สวัสดิการสำหรับตำรวจ: สิทธิประโยชน์และความมั่นคงในอาชีพ

ที่พักอาศัย: เจ้าหน้าที่ตำรวจมีสิทธิ์ได้รับบ้านพักหรือห้องพักจากทางราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่

ค่าการศึกษา: สนับสนุนค่าเล่าเรียนบุตรสูงสุด 3 คน จนถึงอายุ 25 ปี

ค่ารักษาพยาบาล: ครอบคลุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร

ปรับเงินเดือนประจำปี: มีการปรับขึ้นเงินเดือนปีละ 2 ครั้ง

ค่าเครื่องแบบ: สนับสนุนค่าตัดชุดเครื่องแบบปีละ 2,000 บาท สิทธิ์การลา:

🔘 ลาพักร้อนสูงสุด 30 วัน

🔘 ลากิจ 45 วัน

🔘 ลาคลอดบุตร 90 วัน

🔘 ลาบวช 120 วัน

🔘 ลาศึกษาต่อได้นานสูงสุด 4 ปี

สวัสดิการทางการเงิน: กองทุนเงินกู้กองกลางสำหรับข้าราชการตำรวจ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคาร

ทั่วไป

เงินบำเหน็จบำนาญ: ให้ความมั่นคงหลังเกษียณ เงินช่วยเหลือในกรณีเสียชีวิต: มีเงินช่วยเหลือและสวัสดิการสำหรับครอบครัว

ของตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่

สวัสดิการเหล่านี้สะท้อนถึงความมั่นคงและความใส่ใจที่ภาครัฐมีต่อข้าราชการตำรวจ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว

รอบของการสอบ

การสอบตํารวจพิสูจน์หลักฐาน มีขั้นตอนคัดกรอง 3 รอบ เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่

โดยจะแบ่งการสอบได้ดังนี้

1. การสอบข้อเขียน

2. การตรวจร่างกาย และทดสอบสุขภาพจิต

3. การสอบสัมภาษณ์

การเตรียมตัวก่อนเข้าฝึกเป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทั้งทักษะทางวิทยาศาสตร์ ความละเอียดรอบคอบ และความสามารถในการทำงานร่วม

กับทีมสืบสวน หากคุณกำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าฝึกเป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นี่คือแนวทางการเตรียมตัวแบบครบถ้วน

🔸 1. เตรียมร่างกายให้แข็งแรง

แม้ว่าตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเน้นงานด้านนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก แต่ก็ยังต้องผ่านการฝึกเบื้องต้นแบบตำรวจทั่วไป

ซึ่งรวมถึงการฝึกทางร่างกายอย่างเข้มข้น

✅ การฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย

🔘 วิ่งระยะไกล : เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ควรวิ่งอย่างน้อย 3-5 กม. ต่อวัน

🔘 วิดพื้น / ซิทอัพ / สควอท : ฝึกให้สามารถทำได้อย่างน้อย 50 ครั้งต่อรอบ

🔘 ฝึกความอดทน : ลองออกกำลังกายที่เพิ่มความอึด เช่น การวิ่งขึ้นบันได หรือฝึกฝืนกำลังกาย

✅ ทดสอบสมรรถภาพตามมาตรฐานตำรวจ ในการฝึกพื้นฐานของตำรวจ ต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพทางกาย

ซึ่งอาจรวมถึง

🔘 วิ่ง 1,000 เมตรให้ทันตามเวลาที่กำหนด

🔘 ลุก-นั่งต่อเนื่อง 30-40 ครั้ง

🔘 กระโดดไกลจากที่ยืน

✅ ดูแลสุขภาพโดยรวม

🔘 รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น อกไก่ ไข่ต้ม ปลา ถั่ว

🔘 นอนหลับให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่วโมง

🔘 หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของหวานมากเกินไป

🔸 2. เตรียมความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์และกฎหมาย

ตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องมีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ

การสืบสวน

✅ วิชานิติวิทยาศาสตร์ที่ควรศึกษา

🔘 พื้นฐานนิติวิทยาศาสตร์ : ศึกษาเกี่ยวกับการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ เช่น ลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ รอยเท้า

🔘 การตรวจสอบที่เกิดเหตุ (CSI) : เรียนรู้กระบวนการเก็บหลักฐานและการถ่ายภาพที่เกิดเหตุ

🔘 การตรวจสอบอาวุธปืนและกระสุน : ศึกษาเกี่ยวกับลักษณะของกระสุนปืนและเขม่าดินปืน

🔘 การตรวจสอบเอกสารและลายมือชื่อปลอมแปลง : ฝึกดูความแตกต่างของลายเซ็นปลอม

🔘 การตรวจสอบสารเคมีและยาเสพติด : รู้จักเทคนิคการทดสอบสารเสพติดในห้องปฏิบัติการ

✅ กฎหมายที่ต้องศึกษา

🔘 ประมวลกฎหมายอาญา : มาตราที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม

🔘 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา : กระบวนการยุติธรรมทางคดีอาญา

🔘 พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับนิติวิทยาศาสตร์ เช่น พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ

🔸 3. เตรียมฝึกทักษะการสังเกตและการวิเคราะห์หลักฐาน

ตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องมีความสามารถในการสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ

✅ ฝึกสังเกตสิ่งรอบตัว

🔘 ฝึกดูรายละเอียดในภาพถ่าย เช่น วัตถุที่ซ่อนอยู่ หรือสิ่งผิดปกติในฉาก

🔘 ฝึกจำรายละเอียดของบุคคล เช่น สีเสื้อ ลักษณะท่าทาง

✅ ฝึกการคิดวิเคราะห์

🔘 ลองอ่านคดีตัวอย่างจากข่าวหรือหนังสือ และวิเคราะห์หลักฐานที่เกี่ยวข้อง

🔘 เล่นเกมที่ช่วยพัฒนาการวิเคราะห์ เช่น Sudoku หรือเกมไขปริศนา

🔸 4. ฝึกการใช้เครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์

ตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องใช้เครื่องมือต่างๆ ในการตรวจสอบหลักฐาน เช่น กล้องจุลทรรศน์ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ

เครื่องตรวจดีเอ็นเอ

✅ เครื่องมือที่ควรรู้จัก

🔘 กล้องจุลทรรศน์ : ใช้ตรวจสอบเส้นใยและรอยแตกของวัตถุ

🔘 เครื่องตรวจลายนิ้วมือแฝง : ใช้ผงฝุ่นหรือสารเคมีเพื่อเปิดเผยลายนิ้วมือ

🔘 ชุดตรวจสอบสารเคมี : ใช้สำหรับตรวจหาสารเสพติดหรือสารพิษในที่เกิดเหตุ

🔘 เครื่องตรวจสอบเอกสารปลอมแปลง : ใช้แสง UV และอินฟราเรดตรวจสอบหมึกและกระดาษ

🔸 5. เตรียมทักษะการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร

✅ ฝึกใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ

🔘 ฝึกใช้กล้องถ่ายภาพหลักฐานจากมุมต่างๆ

🔘 ฝึกปรับโหมดกล้องให้เหมาะกับสถานการณ์

ตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องทำงานร่วมกับตำรวจฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช และพนักงานสอบสวน ดังนั้นต้องมีทักษะการทำงาน

เป็นทีมและการสื่อสารที่ดี

✅ ฝึกการสื่อสารและการเขียนรายงาน

🔘 ฝึกเขียนรายงานการตรวจสอบหลักฐานให้ละเอียดและชัดเจน

🔘 ฝึกพูดรายงานสรุปผลการตรวจสอบต่อที่ประชุม

✅ ฝึกการเป็นพยานในศาล

🔘 ฝึกตอบคำถามอย่างเป็นกลางและตรงประเด็น

🔘 ฝึกอธิบายผลการตรวจสอบให้เข้าใจง่าย

🔸 6. เตรียมตัวด้านจิตใจและความอดทน

การทำงานของตำรวจพิสูจน์หลักฐานอาจต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เช่น คดีฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุร้ายแรง

✅ ฝึกควบคุมอารมณ์ 🔘 ฝึกทำสมาธิเพื่อลดความตื่นเต้นและความเครียด

🔘 ฝึกเผชิญหน้ากับสถานการณ์จำลอง เช่น การตรวจสอบศพในที่เกิดเหตุ

✅ เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการทำงานภายใต้แรงกดดัน

🔘 ฝึกทำงานภายใต้เวลาจำกัด

🔘 ฝึกจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

การเตรียมตัวก่อนเข้าฝึกเป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

การเตรียมตัวเพื่อเข้าฝึกเป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องใช้ทั้งร่างกาย จิตใจ และทักษะวิชาการ คุณควร

✅ ฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายให้พร้อมรับการฝึก

✅ ศึกษานิติวิทยาศาสตร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

✅ ฝึกทักษะการสังเกต วิเคราะห์ และใช้เครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์

✅ ฝึกทำงานเป็นทีมและการสื่อสารเพื่อให้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่อื่นได้ดี

✅ เตรียมจิตใจให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ที่กดดันและสะเทือนขวัญ

หากคุณเตรียมตัวตามแนวทางนี้ โอกาสประสบความสำเร็จในการเป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะมีสูงขึ้นมาก 🎯

ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ฝึกกี่เดือน? มีการฝึกแบบไหนบ้าง?

ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หรือที่เรียกกันว่า "ตำรวจนิติวิทยาศาสตร์" เป็นหน่วยงานสำคัญที่มีหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์หลัก

ฐานในที่เกิดเหตุเพื่อใช้ในการสืบสวนคดีอาชญากรรม การฝึกอบรมสำหรับตำรวจพิสูจน์หลักฐานมีหลายหลักสูตร ขึ้นอยู่กับ

ตำแหน่งและประเภทของงานที่ต้องปฏิบัติ โดยหลักสูตรที่สำคัญมีดังนี้

ระยะเวลาการฝึกอบรม

โดยทั่วไป การฝึกอบรมตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่

การฝึกอบรมพื้นฐานของตำรวจ (ประมาณ 6 เดือน)

🔘 สำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ารับราชการตำรวจจะต้องผ่านการฝึกอบรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน ซึ่งเป็นการฝึกเกี่ยวกับ

กฎหมาย ระเบียบวินัย การใช้อาวุธ การปฏิบัติงานเบื้องต้นของตำรวจ

การฝึกอบรมเฉพาะทางของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (ประมาณ 4 - 6 เดือน)

🔘 เมื่อผ่านการฝึกอบรมพื้นฐานแล้ว ผู้ที่ได้รับเลือกให้ปฏิบัติงานในสายงานพิสูจน์หลักฐานจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเทคนิคการตรวจสอบและวิเคราะห์หลักฐานในที่เกิดเหตุ

รวมแล้วระยะเวลาการฝึกทั้งหมดอาจใช้เวลาประมาณ 10 - 12 เดือน

รูปแบบการฝึกอบรมของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

การฝึกอบรมภาคทฤษฎี

ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะต้องศึกษาวิชาการหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับนิติวิทยาศาสตร์และการตรวจสอบหลักฐาน เช่น

📍นิติวิทยาศาสตร์พื้นฐาน

🔘 ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์

🔘 หลักการเก็บและวิเคราะห์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

📍การตรวจสอบที่เกิดเหตุ (Crime Scene Investigation - CSI)

🔘 วิธีการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

🔘 เทคนิคการเก็บหลักฐานโดยไม่ทำให้เสียหาย

📍การตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ

🔘 วิธีเก็บลายนิ้วมือจากวัตถุพยาน

🔘 การเปรียบเทียบลายนิ้วมือ

📍การตรวจสอบดีเอ็นเอ (DNA Analysis)

🔘 กระบวนการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ

🔘 การใช้ดีเอ็นเอในการระบุตัวบุคคล

🔘 กระบวนการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ

🔘 การใช้ดีเอ็นเอในการระบุตัวบุคคล

📍การตรวจสอบอาวุธปืนและกระสุนปืน

🔘 การวิเคราะห์ร่องรอยจากอาวุธปืน

🔘 การตรวจสอบเขม่าดินปืน

📍การตรวจสอบเอกสารปลอมแปลง

🔘 การตรวจสอบลายเซ็น

🔘 เทคนิคการแยกแยะเอกสารปลอม

📍การตรวจสอบสารเคมีและยาเสพติด

🔘 การวิเคราะห์สารเคมีในห้องปฏิบัติการ

🔘 เทคนิคการตรวจสอบยาเสพติด

📍กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

🔘 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์หลักฐาน

🔘 กระบวนการสืบสวนสอบสวนทางคดี

การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ

เมื่อผ่านภาคทฤษฎีแล้ว ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะต้องฝึกปฏิบัติ

จริงเพื่อให้มีทักษะที่พร้อมใช้งานในภาคสนาม โดยการฝึกปฏิบัติจะครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เช่น

📍การจำลองเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ

🔘 การเข้าเก็บหลักฐานในสถานการณ์จำลอง

🔘 การบันทึกภาพและร่างแผนที่เกิดเหตุ

📍การใช้เครื่องมือตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์

🔘 การใช้กล้องจุลทรรศน์สำหรับวิเคราะห์เส้นใยและสิ่งตกค้าง

🔘 การใช้เครื่องตรวจสอบร่องรอยเขม่าดินปืน

📍การฝึกเก็บและวิเคราะห์ดีเอ็นเอ

🔘 ฝึกการเก็บตัวอย่างจากศพหรือวัตถุพยาน

🔘 ฝึกการวิเคราะห์ดีเอ็นเอในห้องปฏิบัติการ

📍การฝึกตรวจสอบลายนิ้วมือ

🔘ฝึกการใช้ผงฝุ่นและสารเคมีเพื่อเปิดเผยลายนิ้วมือแฝง

🔘ฝึกการนำลายนิ้วมือไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล

📍การฝึกตรวจสอบเอกสารปลอมแปลง

🔘 การใช้แสงยูวีและอินฟราเรดในการตรวจสอบเอกสาร

🔘 การวิเคราะห์หมึกและลายเซ็นปลอม

📍การฝึกทำรายงานและให้ปากคำในชั้นศาล

🔘 ฝึกการเขียนรายงานผลการตรวจสอบหลักฐาน

🔘 ฝึกการเป็นพยานในศาลเพื่อสนับสนุนคดี

เส้นทางอาชีพหลังจากผ่านการฝึกอบรม

เมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้ว ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสามารถปฏิบัติงานในหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่

กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

🔘 ดูแลคดีใหญ่ระดับประเทศ

🔘 วิเคราะห์หลักฐานที่ซับซ้อนและต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

หน่วยงานเฉพาะทาง

🔘 ปฏิบัติงานตรวจสอบหลักฐานในระดับจังหวัด

🔘 ให้การสนับสนุนการสืบสวนของสถานีตำรวจ

สรุป

🔘ตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องฝึกอบรมพื้นฐานของตำรวจทั่วไปประมาณ 6 เดือน

🔘จากนั้นต้องฝึกอบรมเฉพาะทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ 4 - 6 เดือน

🔘 รวมระยะเวลาการฝึกทั้งหมดประมาณ 10 - 12 เดือน

🔘 การฝึกอบรมแบ่งเป็น ภาคทฤษฎี (เช่น นิติวิทยาศาสตร์, กฎหมาย, กระบวนการตรวจสอบหลักฐาน) และ ภาคปฏิบัติ (เช่น เก็บหลักฐาน, ตรวจสอบดีเอ็นเอ, วิเคราะห์เอกสารปลอม)

🔘 เมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้ว สามารถทำงานในหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานต่าง ๆ เช่น กองพิสูจน์หลักฐานกลางและกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัด

Share !!!
Picture of เขียนโดย   พี่บัส GURU ACADEMY
เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY

เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่1 ของประเทศ

เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY
เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่ 1 ของประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอร์สติวสอบราชการ ออนไลน์

ที่สุด...แห่งคุณภาพ กว่า 10 ปี

ที่สุด…แห่งผลงานการันตีอันดับ 1

ที่สุด…แห่งความครบถ้วน จัดเต็มทุกวิชา

GURU ACADEMY คอร์สติวสอบราชการ

ประสบการณ์สอนมากกว่า 10 ปี มีลูกศิษย์มากกว่า 20,000 คน

0
    0
    ตะกร้าของฉัน
    Your cart is emptyReturn to Shop

    เมนู

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • คุกกี้ที่จำเป็น
      เปิดใช้งานตลอด

      ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
      รายละเอียดคุกกี้

    • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

      คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
      รายละเอียดคุกกี้

    • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

      คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้
      รายละเอียดคุกกี้

    บันทึกการตั้งค่า