ครูผู้ช่วยคืออะไร ?
ครูผู้ช่วยเป็นตำแหน่งเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่สายงานการศึกษาในระดับโรงเรียน โดยมีหน้าที่สำคัญคือการช่วยสอนและพัฒนาทักษะ
การเรียนรู้ของนักเรียน รวมถึงการทำงานร่วมกับครูประจำการเพื่อให้กระบวนการเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ครูผู้ช่วยยัง
มีบทบาทในการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ทั้งในด้านการบริหารงาน การจัดกิจกรรมพิเศษ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใน
กระบวนการสอน
ครูผู้ช่วยเป็นตำแหน่งเริ่มต้นในสายงานการสอนที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบการศึกษาในประเทศไทย โดยครูผู้
ช่วยสามารถปฏิบัติงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งจะมีลักษณะและหน้าที่เฉพาะเจาะจงตามแต่ละสังกัด ในที่นี้จะอธิบายว่าครู
ผู้ช่วยเกี่ยวข้องกับกระทรวงใด และหน้าที่ของพวกเขาในบริบทของกระทรวงนั้น
ครูผู้ช่วยในกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลระบบการศึกษาในประเทศไทย ตำแหน่งครูผู้ช่วยส่วนใหญ่จะอยู่ใน
สังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีหน้าที่และบทบาทสำคัญในระดับโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ครูผู้ช่วยในกระทรวงนี้จะทำงาน
ภายใต้การดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ
บทบาทของครูผู้ช่วยในกระทรวงศึกษาธิการ
🔸 จัดการเรียนการสอน
🔘 ครูผู้ช่วยในกระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่สอนในห้องเรียน โดยเน้นการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน
🔸 พัฒนาสื่อการเรียนการสอน
🔘 ผลิตสื่อและกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน
🔸 ช่วยงานบริหารในโรงเรียน
🔘 รวมถึงการดูแลกิจกรรมพิเศษ งานวิชาการ และการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ดี
🔸 สนับสนุนครูประจำการ
🔘 ลดภาระงานของครูประจำการ โดยเฉพาะในโรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวนมาก
โครงสร้างและสังกัดที่เกี่ยวข้อง
ครูผู้ช่วยที่อยู่ในกระทรวงศึกษาธิการจะถูกแบ่งออกตามสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ซึ่งดูแลโรงเรียนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในเขตเมืองและ
ชนบท โดย สพท. มีบทบาทในการกำหนดนโยบายและสนับสนุนการทำงานของโรงเรียน
จุดเด่นและโอกาส
🔘 มีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ เช่น การเลื่อนตำแหน่งเป็นครูประจำการและผู้บริหารโรงเรียน
🔘 ได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น การอบรมและสัมมนาจากกระทรวง
🔘 มีเครือข่ายงานที่หลากหลายและเป็นระบบ
ครูผู้ช่วยในกระทรวงมหาดไทย
นอกจากกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ครูผู้ช่วยบางส่วนยังอยู่ในสังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ
กระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
บทบาทของครูผู้ช่วยในกระทรวงมหาดไทย
🔸 ส่งเสริมการศึกษาท้องถิ่น
🔘 ทำหน้าที่สอนและพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับชุมชนในพื้นที่
🔸 จัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น
🔘 สร้างการเรียนรู้ที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นและพัฒนานักเรียนให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีของชุมชน
🔸 สนับสนุนงานชุมชน
🔘 ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
จุดเด่นและโอกาส
🔘 ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดกับชุมชน
🔘 ได้รับโอกาสในการพัฒนาการสอนที่เน้นความต้องการของนักเรียนในพื้นที่
🔘 มีความยืดหยุ่นในด้านการบริหารงาน
ครูผู้ช่วยในกระทรวงอื่น ๆ
ครูผู้ช่วยยังสามารถพบได้ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ กระทรวงแรงงาน, กระทรวงวัฒนธรรม, หรือหน่วยงานพิเศษที่ดูแลโรงเรียนเฉพาะทาง
เช่น โรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมที่อยู่ภายใต้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
บทบาทของครูผู้ช่วยในกระทรวงอื่น ๆ
🔘 ทำหน้าที่สอนและพัฒนาทักษะเฉพาะทาง เช่น การสอนศาสนา การฝึกอาชีพ หรือการปลูกฝังจริยธรรม
🔘 สนับสนุนการพัฒนาชุมชนในด้านต่าง ๆ เช่น วัฒนธรรม การอนุรักษ์ และการพัฒนาศักยภาพแรงงาน
จุดเด่นและโอกาส
🔘 มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
🔘 ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเฉพาะตัวและแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไป
ครูผู้ช่วยส่วนใหญ่อยู่ใน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลด้านการศึกษา แต่ก็มีครูผู้ช่วยในหน่วยงานอื่น ๆ เช่น
กระทรวงมหาดไทย และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเฉพาะด้าน ครูผู้ช่วยในแต่ละกระทรวงมีบทบาทที่สำคัญในการสร้างคุณภาพการศึกษา
และการทำงานของพวกเขาเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความสำเร็จในระบบการศึกษาไทย
สังกัดของครูผู้ช่วยมีอะไรบ้าง ?
ตำแหน่งครูผู้ช่วยมีหลายสังกัดที่ผู้สมัครสามารถเลือกตามความสนใจและคุณสมบัติที่เหมาะสม โดยแต่ละสังกัดมีหน้าที่และบทบาทเฉพาะตัว
ซึ่งแตกต่างกันไปตามโครงสร้างและนโยบายขององค์กร ดังนี้
1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เป็นหน่วยงานภายใต้ กระทรวงศึกษาธิการ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการบริหารจัดการโรงเรียนระดับประถม
ศึกษาและมัธยมศึกษาในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ครูผู้ช่วยในสังกัดนี้ทำงานในโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ สำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
🔸 ลักษณะงาน
ครูผู้ช่วยในสังกัดนี้ทำงานในโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนในพื้นที่
เฉพาะ ครูผู้ช่วยจะมีบทบาทในการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
🔸 ข้อดี
โอกาสในการพัฒนาตำแหน่งและเครือข่ายงานที่หลากหลาย รวมถึงการเข้ารับการอบรมและสัมมนาที่สนับสนุนโดยกระทรวงศึกษาธิการ
🔸 ข้อควรรู้
ต้องปฏิบัติงานตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัด และอาจต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ห่างไกลในบางกรณี
2. สังกัดเทศบาล
ตำแหน่งครูผู้ช่วยมีหลายสังกัดที่ผู้สมัครสามารถเลือกตามความสนใจและคุณสมบัติที่เหมาะสม โดยแต่ละสังกัดมีหน้าที่และบทบาทเฉพาะตัว
ซึ่งแตกต่างกันไปตามโครงสร้างและนโยบายขององค์กร ดังนี้
🔸 ลักษณะงาน
มุ่งเน้นการพัฒนาการศึกษาระดับท้องถิ่น โดยครูผู้ช่วยจะทำงานในโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น
เทศบาลหรืออบต. ครูในสังกัดนี้มักมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงชุมชนกับโรงเรียน
🔸 ข้อดี
มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับชุมชน และสามารถประยุกต์การสอนให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
🔸 ข้อควรรู้
อาจมีทรัพยากรหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำกัดเมื่อเทียบกับโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
3. สังกัดเอกชน
โรงเรียนเอกชนดำเนินงานโดย บุคคลหรือองค์กรเอกชน ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การจัดการโดยรัฐโดยตรง แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายการศึกษา
และข้อบังคับของกระทรวงศึกษาธิการ
🔸 ลักษณะงาน
ครูผู้ช่วยในโรงเรียนเอกชนมักมีบทบาทหลากหลาย เนื่องจากโรงเรียนเอกชนมีความยืดหยุ่นในการกำหนดหลักสูตรและวิธีการสอน
นอกจากนี้ ยังต้องเน้นการให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครองและนักเรียน
🔸 ข้อดี
โอกาสในการพัฒนาทักษะการสอนที่ทันสมัย รวมถึงการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นมืออาชีพสูง
🔸 ข้อควรรู้
การแข่งขันสูงและต้องรับผิดชอบงานที่หลากหลาย เช่น การประเมินผลในเชิงคุณภาพ
4. สังกัดอื่นๆ เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนา
ครูผู้ช่วยยังสามารถปฏิบัติงานในโรงเรียนที่ไม่อยู่ในสามกลุ่มหลักดังกล่าว เช่น โรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม โรงเรียนสังกัดองค์กรศาสนา
หรือหน่วยงานพิเศษอื่นๆ
🔸 ลักษณะงาน
ครูผู้ช่วยที่ทำงานในโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมจะเน้นการสอนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและจริยธรรม เช่น การสอนบาลีและธรรมะ
🔸 ข้อดี
ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมคุณธรรมและศีลธรรมในชุมชน พร้อมทั้งมีโอกาสเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับหลักศาสนา
🔸 ข้อควรรู้
คุณสมบัติของครูผู้ช่วย
การจะเป็นครูผู้ช่วยในแต่ละสังกัด ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้
🔘 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาการศึกษา หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
🔘 มีใบประกอบวิชาชีพครูซึ่งออกโดยคุรุสภา
🔘 ผ่านการสอบแข่งขันตามเกณฑ์ของแต่ละสังกัด เช่น การสอบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือการสอบของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
🔘 มีทักษะการสื่อสารที่ดีและมีจิตวิญญาณของความเป็นครู
ความสำคัญของครูผู้ช่วยในระบบการศึกษา
ครูผู้ช่วยเป็นตำแหน่งที่ช่วยสนับสนุนกระบวนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ความต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพ
ในสายงานการศึกษาเพิ่มสูงขึ้น หน้าที่หลักของครูผู้ช่วยไม่เพียงแต่การสอน แต่ยังรวมถึงการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ การประเมินผลนักเรียน และ
การส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ครูผู้ช่วยยังมีบทบาทในการช่วยลดภาระงานของครูประจำการ เพื่อให้สามารถมุ่งเน้น
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนได้ดียิ่งขึ้น
การเตรียมตัวเพื่อสมัครเป็นครูผู้ช่วย
ผู้ที่สนใจตำแหน่งครูผู้ช่วยควรเริ่มจากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบแข่งขันและข้อกำหนดของแต่ละสังกัด พร้อมทั้งเตรียมตัวในด้านต่างๆ
🔸 ศึกษาแนวข้อสอบ
การทบทวนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวิชาการศึกษาและความรู้เฉพาะด้านเป็นสิ่งสำคัญ
🔸 พัฒนาทักษะส่วนบุคคล
เช่น การจัดการเวลา การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
🔸 สร้างเครือข่าย
การเข้าร่วมกลุ่มหรือชมรมที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพครูสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลข่าวสาร
ครูผู้ช่วยกับการเตรียมตัวเข้าสู่ตำแหน่งครูประจำการ
🔘 อธิบายกระบวนการและขั้นตอนจากครูผู้ช่วยสู่ครูประจำการ รวมถึงการเตรียมตัวด้านวิชาการและการปฏิบัติงาน
บทบาทของครูผู้ช่วยในยุคดิจิทัล
🔘 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในงานสอน และวิธีการสนับสนุนการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์
ครูผู้ช่วยที่ดีควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
🔘 เจาะลึกคุณลักษณะและทักษะที่จำเป็นสำหรับครูผู้ช่วย เช่น ความสามารถในการแก้ไขปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และการพัฒนาตนเอง
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของครูผู้ช่วยในแต่ละสังกัด
🔘 วิเคราะห์เปรียบเทียบเชิงลึกถึงโอกาส ความท้าทาย และสภาพแวดล้อมการทำงานในแต่ละสังกัด
🔸 การเตรียมตัวสอบครูผู้ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
🔘 เทคนิคการอ่านหนังสือ การจัดตารางเวลา และการทำข้อสอบอย่างมีประสิทธิภาพ
🔸 ครูผู้ช่วยกับการพัฒนาหลักสูตรการสอนในโรงเรียน
🔘 บทบาทของครูผู้ช่วยในการร่วมพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมเสริมทักษะของนักเรียน
🔸 การดูแลสุขภาพจิตของครูผู้ช่วยในระหว่างปฏิบัติงาน
🔘 วิธีการจัดการความเครียด การสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว
🔸 ครูผู้ช่วยกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในโรงเรียนและชุมชน
🔘 การทำงานร่วมกับครูประจำการ ผู้ปกครอง และชุมชนเพื่อพัฒนานักเรียน
🔸 ครูผู้ช่วยในโรงเรียนขนาดเล็ก vs โรงเรียนขนาดใหญ่
🔘 ความแตกต่างในหน้าที่ บทบาท และความคาดหวังในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน
🔸 อนาคตของครูผู้ช่วยในระบบการศึกษาไทย
🔘 แนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การพัฒนาทักษะใหม่และการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการศึกษา
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของครูผู้ช่วยในแต่ละสังกัด
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นบุคลากรของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในราชการไทย ในอดีตมีชื่อเรียกว่า ข้าราชการครู ภายใต้การกำกับ
ดูแลของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการครูที่สังกัดการปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ข้าราชการครูองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานครูเทศบาล และพนักงานครู
องค์การบริหารส่วนตำบล ตำแหน่ง ครู นั้น จะจัดอยู่ในหมดหมู่ ผู้สอนในหน่วยงานการศึกษา
🔸 โดยแบ่งได้ 2 ประเภทคือ ครูผู้ช่วย และ ครู
1. ครูผู้ช่วย เป็นตำแหน่งที่บรรจุแต่งตั้งในระดับแรก (เทียบเท่าตำแหน่งอาจารย์ 1 ระดับ 5 เดิม)
2. ครู คศ. 1 (เทียบเท่าตำแหน่งอาจารย์ 2 ระดับ 6 เดิม)
3. ครู คศ. 2 เป็นวิทยฐานะครูชำนาญการ โดยแต่งตั้งจากครู คศ. 1 ที่มีผลงานวิชาการผ่านเกณฑ์ (เทียบเท่าตำแหน่งอาจารย์ 2 ระดับ 7 เดิม)
4. ครู คศ. 3 เป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ แต่งตั้งจากครู คศ. 2 ที่มีผลงานวิชาการผ่านเกณฑ์ (เทียบเท่าตำแหน่งอาจารย์ 3 ระดับ 8 เดิม)
5. ครู คศ. 4 เป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ แต่งตั้งจากครู คศ. 2 หรือ คศ. 3 ที่มีผลงานวิชาการผ่านเกณฑ์ (เทียบเท่าตำแหน่งอาจารย์ 3 ระดับ
9 เดิม)
6. ครู คศ. 5 เป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ แต่งตั้งจากครู คศ. 4 ที่มีผลงานวิชาการผ่านเกณฑ์ (เทียบเท่าตำแหน่งอาจารย์ ระดับ 10 ซึ่งใน
อดีตไม่เคยมีมาก่อน โดยได้รับการขยายให้สูงขึ้นตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ในมาตรา 39
ให้เทียบเท่าอธิบดีกรมหรือรองเลขาธิการ)
โดยคำว่า ครู คศ. มีความหมายว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษา ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ครูผู้ช่วยก็คือครูเช่นเดียวกัน แต่เป็นตำแหน่งที่บรรจุใน
ระดับแรก ที่สามารถเลื่อนระดับเป็น ครู คศ. ได้ในอนาคตนั่นเอง
การเติบโตในสายงานครู: จาก "ครูผู้ช่วย" ถึง "ครู คศ. 5"
ตำแหน่งในสายอาชีพ
ครูแบ่งออกเป็นลำดับขั้นตามความสามารถและประสบการณ์ โดยเริ่มตั้งแต่ ครูผู้ช่วย ไปจนถึง ครู คศ. 5 ซึ่งมีลำดับขั้นและรายละเอียดดังนี้
1. ครูผู้ช่วย
ลำดับแรกในการเข้าสู่สายงานครู
🔸 บทบาทและหน้าที่
🔘 ทำหน้าที่ช่วยครูประจำการในการจัดการเรียนการสอน
🔘 พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนักเรียน
🔘 สนับสนุนกิจกรรมทางการศึกษา เช่น การจัดกิจกรรมพิเศษ การประเมินผลการเรียนรู้
🔸 คุณสมบัติ
🔘 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการศึกษา (เช่น ครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์)
🔘 มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจากคุรุสภา
🔘 ผ่านการสอบแข่งขันบรรจุเป็นครูผู้ช่วยตามระเบียบของแต่ละสังกัด
🔸 ระยะเวลาในตำแหน่ง
🔘 ครูผู้ช่วยจะปฏิบัติงานเป็นเวลา 2 ปี เพื่อรับการประเมินก่อนเลื่อนตำแหน่งเป็น ครู คศ. 1
2. ครู คศ. 1 (ครูชำนาญการ)
ลำดับถัดไปหลังจากครูผู้ช่วย
🔸 บทบาทและหน้าที่
🔘 รับผิดชอบจัดการเรียนการสอนในวิชาที่ได้รับมอบหมาย
🔘 วางแผนการสอน พัฒนาหลักสูตร และสร้างสื่อการเรียนการสอน
🔘 ดูแลการเรียนรู้และพัฒนาการของนักเรียน
🔸 คุณสมบัติและการเลื่อนตำแหน่ง
🔘 ต้องปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งครูผู้ช่วย ไม่น้อยกว่า 2 ปี
🔘 ผ่านการประเมินสมรรถนะตามเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการ
🔘 ผ่านการประเมินสมรรถนะตามเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการ
3. ครู คศ. 2 (ครูชำนาญการพิเศษ)
ตำแหน่งที่ต้องการประสบการณ์และผลงานเพิ่มเติม
🔸 บทบาทและหน้าที่
🔘 พัฒนากระบวนการเรียนการสอนในเชิงลึก
🔘 สร้างสรรค์นวัตกรรมการศึกษาและงานวิจัยเพื่อพัฒนานักเรียน
🔘 ให้คำปรึกษาและเป็นแบบอย่างให้กับครูรุ่นใหม่
🔸 คุณสมบัติและการเลื่อนตำแหน่ง
🔘 ปฏิบัติงานในตำแหน่ง ครู คศ. 1 อย่างน้อย 4 ปี
🔘 มีผลงานวิจัยหรือพัฒนาการเรียนการสอนที่ได้รับการยอมรับในระดับเขตพื้นที่
🔘 ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนด
4. ครู คศ. 3 (ครูเชี่ยวชาญ)
ตำแหน่งที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญในสายวิชาชีพ
🔸 บทบาทและหน้าที่
🔘 สร้างผลงานทางวิชาการและการสอนที่มีคุณภาพในระดับประเทศ
🔘 ให้คำปรึกษาและช่วยพัฒนาครูในระดับต่ำกว่า
🔘 มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและการจัดการศึกษา
🔸 คุณสมบัติและการเลื่อนตำแหน่ง
🔘 ปฏิบัติงานในตำแหน่ง ครู คศ. 2 อย่างน้อย 5 ปี
🔘 มีผลงานเชิงวิชาการที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติหรือสูงกว่า
🔘 ผ่านการประเมินความเชี่ยวชาญตามเกณฑ์
5. ครู คศ. 4 (ครูเชี่ยวชาญพิเศษ)
ตำแหน่งที่แสดงถึงความชำนาญขั้นสูงสุดในระดับชุมชนและประเทศ
🔸 บทบาทและหน้าที่
🔘 พัฒนานโยบายหรือโครงการทางการศึกษาที่มีผลกระทบกว้างขวาง
🔘 เป็นผู้นำทางวิชาการในระดับเขตหรือประเทศ
🔘 เผยแพร่นวัตกรรมและผลงานวิจัยในระดับสากล
🔸 คุณสมบัติและการเลื่อนตำแหน่ง
🔘 ปฏิบัติงานในตำแหน่ง ครู คศ. 3 อย่างน้อย 5 ปี
🔘 มีผลงานวิชาการหรือวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
🔘 ผ่านการประเมินตามเกณฑ์เชิงวิชาการและคุณธรรม
6. ครู คศ. 5 (ครูทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน)
ตำแหน่งสูงสุดในสายงานครู
🔸 บทบาทและหน้าที่
🔘 เป็นผู้นำในวงการศึกษาของประเทศ
🔘 สร้างสรรค์นวัตกรรมและแนวคิดใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในระดับชาติ
🔘 ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อพัฒนาครูในรุ่นถัดไป
🔸 คุณสมบัติและการเลื่อนตำแหน่ง
🔘 ปฏิบัติงานในตำแหน่ง ครู คศ. 4 อย่างน้อย 5 ปี
🔘 มีผลงานในระดับนานาชาติและได้รับรางวัลหรือเกียรติคุณจากองค์กรที่มีชื่อเสียง
🔘 ผ่านการประเมินจากคณะกรรมการเฉพาะทาง
สรุปลำดับขั้นสายงานครู
การพัฒนาจาก ครูผู้ช่วย ไปจนถึง ครู คศ. 5 ต้องใช้เวลา ความพยายาม และความสามารถในการสร้างผลงานทางวิชาการ การพัฒนาการเรียน
การสอน รวมถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา การเติบโตในสายงานนี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับสถานะในอาชีพ แต่ยังเป็นการ
พัฒนาตนเองและสังคมการศึกษาในวงกว้างอีกด้วย