เรียนจบอะไรถึงจะได้เป็นตำรวจ ?
ในปัจจุบัน การสอบครูผู้ช่วยเป็นขั้นตอนสำคัญในการคัดเลือกบุคลากรเข้าสู่ตำแหน่งครูในสถานศึกษา ด้วยเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา กระทรวงศึกษาธิการได้ปรับปรุงเกณฑ์การสอบครูผู้ช่วยรอบทั่วไปเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง บทความนี้จะพาคุณไป
ทำความเข้าใจในเกณฑ์ใหม่ที่ปรับปรุง พร้อมทั้งข้อมูลที่คุณควรรู้หากคุณกำลังเตรียมตัวสอบ
เกณฑ์การสอบแข่งขัน ครูผู้ช่วย(รอบทั่วไป)
ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป คะแนนเต็ม 200 คะแนน ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ คะแนนเต็ม 200 คะแนน ภาค ค
ความเหมาะสมกับตำแหน่ง วิชาชีพ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป คะแนนเต็ม 200 คะแนน เกณฑ์ผ่าน 60% (120 คะแนน+)
🔘 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
🔘 การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา
🔘 การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม
🔘 การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ
🔸 ทักษะภาษาอังกฤษ
🔘 Conversation
🔘 Grammar and Structure
🔘 Vocabulary
🔘 Reading
🔸 ความรู้และลักษณ์การเป็นข้าราชการที่ดี
🔘 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
🔘 เมืองที่ดี
🔘 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม
🔘 พ.ร.บ.ความรับผิดละเมิดของเจ้าหน้าที่ ป.อาญา พ.ศ. 2499 ในส่วนของความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ คะแนนเต็ม 200 คะแนน เกณฑ์ผ่าน 60%
เบียบบริหารราชการแผ่นดิน (120คะแนน+)
🔸 มาตรฐานความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอน วิชาเอก 100 คะแนน
มาตรฐานความรู้ทั่วไปในการจัดการเรียนการสอน การเปลี่ยนแปลงบริบทของโลก สังคม และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
จิตวิทยาการ
พัฒนาการ จิตวิทยาการศึกษา และจิตวิทยาการให้คำปรึกษาในการวิเคราะห์และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ
หลักสูตร ศาสตร์การสอน และการ
ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้
การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้และการวิจัยเพื่อการแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน
การออกแบบและ
การดำเนินการเกี่ยวกับงานประกันคุณภาพการศึกษา ความรอบรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานและแนวทางการปฏิรูปการศึกษา
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน
🔘 รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน
🔘 กฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ
🔘 กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
🔘 กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
🔘 กฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
🔘 กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
แนวทางการปฏิรูปการศึกษาที่บังคับใช้ในปัจจุบัน
🔘 ยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี
🔘 แผนการศึกษาแห่งชาติ
🔘 นโยบายและจุดเน้นกระทรวง
ศึกษาธิการ ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง วิชาชีพ คะแนนเต็ม 100 คะแนน เกณฑ์ผ่าน 60% (60คะแนน+)
คุณลักษณะส่วนบุคคล ประเมินจากการสัมภาษณ์ 25 คะแนน
🔘 บุคลิกลักษณะ ท่วงทีวาจา
🔘 วุฒิภาวะทางอารมณ์และการมีปฏิภาณการแก้ปัญหา
🔘 ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เจตคติ อุดมการณ์ความเป็นครู
การพัฒนาตนเอง/วิชาชีพ แฟ้มสะสมผลงาน 25 คะแนน
🔘 ประวัติการศึกษา
🔘 ผลงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพและวิชาเอก
🔘 การเข้าถึงชุมชน และการมีจิตสาธารณะ
ความสามารถด้านการสอน 50 คะแนน ความสามารถด้านการสอน 50 คะแนน
🔘 ประเมินจากการนำเสนอที่แสดงถึงทักษะและศักยภาพ ด้านการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ในสาขาวิชาที่สมัครในรูปแบบ
และวิธีการต่างๆ ตามที่ผู้ดำเนินการสอบแข่งขันกำหนด คะแนน
เกณฑ์การสอบครูผู้ช่วยรอบทั่วไป: อัปเดตล่าสุด
🔸 คุณสมบัติของผู้สมัคร ผู้สมัครสอบครูผู้ช่วยต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ดังนี้
🔘 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการศึกษาหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
🔘 มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หรือหนังสือรับรองสิทธิที่ออกโดยคุรุสภา
🔘 ผ่านการฝึกประสบการณ์การสอนในสถานศึกษา
รูปแบบและโครงสร้างการสอบ
เกณฑ์ใหม่กำหนดการสอบออกเป็น 3 ส่วนหลัก
1. การสอบความรู้ความสามารถทั่วไป
🔘 ความรู้ทางวิชาการ เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
🔘 การวิเคราะห์เชิงตรรกะและการแก้ปัญหา
2. การสอบความรู้เฉพาะทางและวิชาชีพครู
🔘 จรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพครู
🔘 ความรู้ด้านการจัดการเรียนการสอน และเทคโนโลยีทางการศึกษา
3. การสอบสัมภาษณ์และการประเมินบุคลิกภาพ
🔘 ทดสอบทัศนคติ ทักษะการสื่อสาร และความเหมาะสมกับอาชีพครู
ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ใหม่
การปรับปรุงเกณฑ์การสอบครูผู้ช่วยมีเป้าหมายเพื่อ:
🔘 ยกระดับมาตรฐานครูให้เหมาะสมกับความต้องการของยุคสมัย
🔘 เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา
🔘 ช่วยให้สถานศึกษาสามารถคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ
ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ใหม่
ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
โดยเฉพาะตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และ 1 พฤษภาคม 2568
การปรับอัตราเงินเดือนครูผู้ช่วยตามวุฒิการศึกษา
🔸 ปริญญาตรี หลักสูตร 4 ปี
💰 อัตราเงินเดือนเดิม: 15,050 บาท
💰 ปรับเป็น 16,560 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
💰 ปรับเป็น 18,220 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
🔸 ปริญญาตรี หลักสูตร 5 ปี
💰 อัตราเงินเดือนเดิม: 15,800 บาท
💰 ปรับเป็น 17,380 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
💰 ปรับเป็น 19,120 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
🔸 ปริญญาตรี หลักสูตร 6 ปี
💰 อัตราเงินเดือนเดิม: 17,690 บาท
💰 ปรับเป็น 19,460 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
💰 ปรับเป็น 21,410 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
🔸 ปริญญาโททั่วไป
💰 อัตราเงินเดือนเดิม: 17,690 บาท
💰 ปรับเป็น 19,460 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
💰 ปรับเป็น 21,410 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
🔸 ปริญญาโท (หลักสูตร 2 ปี ต่อจากปริญญาตรี 5 ปี)
💰 อัตราเงินเดือนเดิม: 18,690 บาท
💰 ปรับเป็น 20,560 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
💰ปรับเป็น 22,620 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
🔸 ปริญญาเอก
💰 อัตราเงินเดือนเดิม: 21,150 บาท
💰 ปรับเป็น 23,270 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
💰 ปรับเป็น 25,600 บาท ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
การปรับเงินเดือนชดเชยสำหรับข้าราชการครูที่บรรจุก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2567
สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และมีอัตราเงินเดือนไม่เกินอัตรา
สูงสุดที่กำหนด จะได้รับการปรับเงินเดือนชดเชยตามคุณวุฒิที่ได้รับการรับรอง
🔸 1. หน้าที่และความรับผิดชอบของครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยเป็นตำแหน่งเริ่มต้นสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้าสู่วงการการศึกษา บทบาทของครูผู้ช่วยมีความสำคัญเพราะเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนา
ตัวเองสู่การเป็นครูเต็มตัว หน้าที่หลักอาจรวมถึง
🔘 การช่วยเหลือครูพี่เลี้ยงในการจัดการเรียนการสอน
🔘 การเตรียมแผนการสอนและสื่อการเรียนการสอน
🔘 การประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน
🔘 การปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของโรงเรียน เช่น งานสันทนาการ กิจกรรมพิเศษ ฯลฯ
🔸 2. คุณสมบัติที่สำคัญในการเป็นครูผู้ช่วย
การเป็นครูผู้ช่วยไม่เพียงแค่ต้องมีความรู้ในวิชาที่สอนเท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะและคุณสมบัติต่อไปนี้
🔘 ความอดทน: เพราะการดูแลเด็กและการจัดการในห้องเรียนมีความท้าทาย
🔘 การสื่อสารที่ดี: เพื่อถ่ายทอดความรู้และสร้างความเข้าใจที่ดีให้กับนักเรียน
🔘 ความสามารถในการจัดการเวลา: เพื่อเตรียมแผนการสอนและจัดการกิจกรรมต่าง ๆ
🔘 จิตวิญญาณความเป็นครู: การรักในวิชาชีพและความตั้งใจที่จะพัฒนานักเรียน
🔸 3. การพัฒนาตนเองในช่วงเป็นครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยควรมุ่งเน้นการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลื่อนตำแหน่ง เช่น
🔘 การอบรมและเข้าร่วมสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้
🔘 การเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีในห้องเรียน เช่น โปรแกรมจัดการเรียนการสอนออนไลน์
🔘 การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโทหรือปริญญาเอก
🔸 4. ความท้าทายของครูผู้ช่วยในปัจจุบัน
ในยุคดิจิทัลและโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ครูผู้ช่วยต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ เช่น
🔘 การจัดการกับความหลากหลายของนักเรียนในห้องเรียน
🔘 การใช้เทคโนโลยีในการสอนให้มีประสิทธิภาพ
🔘 การรักษาสมดุลระหว่างงานเอกสารและการสอน
🔸 5. โอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ
หลังจากเป็นครูผู้ช่วยแล้ว ข้าราชการครูสามารถเติบโตในสายอาชีพได้ด้วยการเลื่อนตำแหน่ง เช่น
🔘 การสอบเพื่อเลื่อนเป็นตำแหน่ง ครู คศ.1
🔘 การเข้ารับการประเมินเพื่อเป็น ครูชำนาญการ หรือ ครูชำนาญการพิเศษ
🔘 การเข้าสู่ตำแหน่งบริหาร เช่น รองผู้อำนวยการหรือผู้อำนวยการ
🔸 6. บทบาทของครูผู้ช่วยในชุมชน
ครูผู้ช่วยไม่ได้เป็นเพียงครูในห้องเรียน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในชุมชน เช่น
🔘 การเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาชุมชน
🔘 การเป็นที่ปรึกษาสำหรับครอบครัวและผู้ปกครอง
🔘 การเป็นตัวแทนในการเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนและสังคม
คำถามที่พบบ่อย
ครูผู้ช่วยคือข้าราชการครูที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งเริ่มต้นของสายงานการสอน โดยมีหน้าที่หลักในการช่วยครูผู้สอนที่มีประสบการณ์มากกว่าในการจัดการเรียนการสอน ดูแลนักเรียน ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รวมถึงการทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรที่กำหนด นอกจากนี้ครูผู้ช่วยยังต้องปฏิบัติงานด้านเอกสาร การวิจัยในชั้นเรียน และงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากสถานศึกษา
ผู้สมัครสอบบรรจุครูผู้ช่วยต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ได้แก่:
- จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการศึกษา (เช่น ครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์) หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
- มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจากคุรุสภา หรือหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนชั่วคราว
- ไม่เป็นผู้ต้องโทษคดีอาญาร้ายแรงหรือมีประวัติทุจริตในการสอบราชการ
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 35 ปี ในบางกรณีหน่วยงานอาจมีการกำหนดอายุเพิ่มเติม
- การสอบภาค ก (ความรู้ความสามารถทั่วไป) – ประกอบด้วยวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย และความรู้ทั่วไป
- การสอบภาค ข (ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) – ประกอบด้วยความรู้ด้านการศึกษา จิตวิทยาการสอน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ครู
- การสอบภาค ค (สัมภาษณ์) – การประเมินบุคลิกภาพ ทัศนคติ และความสามารถในการเป็นครู
- คณิตศาสตร์: การวิเคราะห์ข้อมูล, อนุกรมตัวเลข, เศษส่วน, ร้อยละ, การแก้สมการ
- ภาษาไทย: การอ่านจับใจความ, การสรุปความ, การเขียนภาษาให้ถูกต้อง
- ความรู้ทั่วไป: เหตุการณ์ปัจจุบันในประเทศไทยและต่างประเทศ
การเตรียมตัวสอบควรเริ่มจากการศึกษาโครงสร้างข้อสอบ ตรวจสอบแนวข้อสอบเก่า และทบทวนเนื้อหาสำคัญในภาค ก และภาค ข โดยสามารถแบ่งเวลาอ่านหนังสือตามหัวข้อที่ออกสอบบ่อย รวมถึงฝึกทำข้อสอบเก่าเพื่อประเมินความเข้าใจของตนเอ
การคิดคะแนนสอบจะรวมทั้งภาค ก ภาค ข และภาค ค โดยปกติผู้สมัครต้องได้คะแนนขั้นต่ำในแต่ละภาคเพื่อผ่านเกณฑ์ เช่น ต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 60% ในแต่ละภาค และคะแนนรวมต้องไม่ต่ำกว่า 60 คะแนนจาก 100 คะแนน
- ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของครู
- ทัศนคติที่มีต่อการสอนและพัฒนานักเรียน
- วิธีการรับมือกับปัญหาในโรงเรียน เช่น การจัดการกับนักเรียนที่มีปัญหา
ครูผู้ช่วยต้องปฏิบัติงานในตำแหน่งครูผู้ช่วยเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะได้รับการประเมินเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการครูตำแหน่งครู คศ.1 โดยระหว่างนั้นจะต้องผ่านการประเมินสมรรถนะการสอนและจรรยาบรรณวิชาชีพครู
เงินเดือนเริ่มต้นของครูผู้ช่วยอยู่ที่ประมาณ 15,050 - 16,500 บาท ต่อเดือน ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษา และอัตราเงินเดือนตามบัญชีของสำนักงาน ก.ค.ศ.
สามารถสมัครสอบใหม่ได้ทุกปี โดยต้องติดตามประกาศรับสมัครสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ
ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การสอนมาก่อน แต่การมีประสบการณ์จะช่วยให้มีความเข้าใจในงานมากขึ้นและอาจช่วยให้ผ่านการสัมภาษณ์ได้ง่ายขึ้น
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สอศ.), และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดสอบ
นอกจากการสอนแล้ว ครูผู้ช่วยต้องทำงานด้านเอกสาร งานประเมินผล และเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น งานแนะแนว งานฝ่ายปกครอง และการพัฒนาหลักสูตร
โดยทั่วไปการย้ายโรงเรียนจะสามารถทำได้หลังจากปฏิบัติงานครบ 4 ปี และต้องมีตำแหน่งว่างในโรงเรียนปลายทาง รวมถึงได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชา
- ใบสมัครสอบ
- สำเนาวุฒิการศึกษา
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
- รูปถ่ายตามที่กำหนด
- สำเนาบัตรประชาชน