พี่บัสจะมาบอกเกี่ยวกับการสอบ ก.พ. อย่างละเอียดเลยนะครับ เพราะการสอบนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ไม่ว่าจะจาก
ข่าวสารบนโลกออนไลน์ เพื่อน ๆ รอบตัว หรือแม้กระทั่งจากคนในครอบครัวที่ทำงานราชการอยู่ แต่เชื่อไหมคะว่าหลายคนยังไม่รู้จริง ๆ
ว่าการสอบ ก.พ. คืออะไรกันแน่ แล้วทำไมการสอบนี้ถึงกลายเป็นที่นิยม มีผู้สมัครสอบกันอย่างล้นหลามทุกปี จนเกิดการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง
มากเลยทีเดียว
เลือกอ่าน...ตามหัวข้อที่คุณสนใจ
Toggleก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าการสอบ ก.พ. คือการสอบที่จัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ซึ่งเป็นการทดสอบ
เพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ หรือทำงานในหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ การที่หลายคนมุ่งมั่นที่จะสอบ ก.พ. ให้
ผ่านนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ เพราะการสอบนี้เป็นเหมือน "ใบเบิกทาง" สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากทำงานราชการ ซึ่งถือเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงสูง
มีสวัสดิการดี และมีเส้นทางการเติบโตในสายงานที่ชัดเจน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงให้ความสำคัญกับการสอบ ก.พ. กันมาก
นอกจากนี้ การสอบ ก.พ. ยังเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ใช้เป็นเกณฑ์พื้นฐานในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ ของหน่วยงาน
ภาครัฐ ดังนั้น การที่เราผ่านการสอบ ก.พ. ก็จะช่วยเปิดโอกาสในการสมัครงานราชการในตำแหน่งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม
หรือหน่วยงานอื่น ๆ ของภาครัฐ รวมถึงองค์กรอิสระบางแห่ง หรือรัฐวิสาหกิจบางประเภทที่กำหนดให้ผู้สมัครต้องมีผลสอบ ก.พ. ภาค ก เพื่อใช้
เป็นคุณสมบัติพื้นฐานในการสมัครงาน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกปีถึงมีผู้คนจำนวนมาก ทั้งบัณฑิตจบใหม่หรือคนที่ทำงานอยู่แล้ว แต่ต้องการ
เปลี่ยนเส้นทางสู่การเป็นข้าราชการ ต่างก็พยายามวางแผนและเตรียมตัวสอบ ก.พ. กันอย่างเต็มที่
ดังนั้น ถ้าน้องเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาแนวทางเพื่อเตรียมตัวสอบ ก.พ. หรืออยากรู้ว่าการสอบนี้สำคัญอย่างไร ต้องทำยังไงบ้างจึงจะผ่านการ
ทดสอบ และจะนำไปต่อยอดกับเส้นทางอาชีพได้ยังไง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและมองเห็นภาพรวมของการสอบ ก.พ. มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้ง
แนะนำวิธีการเตรียมตัวที่ถูกต้อง เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้น้องสามารถสอบผ่านและก้าวสู่เส้นทางการเป็นข้าราชการได้อย่างมั่นใจครับน้อง
📌 ประเภทของการสอบ ก.พ. (ภาค ก, ข, ค)
ปัจจุบันการสอบ กพ จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ การสอบ กพ ภาค ก, ภาค ข และภาค ค
ซึ่งจะแบ่งการสอบออกเป็น 3 ภาคด้วยกัน ได้แก่
1. ภาค ก.
คือ การสอบเพื่อวัดความรู้ ความสามารถทั่วไป เป็นประตูด่านแรกที่ต้องสอบให้ผ่าน ผู้เข้าสอบต้องสอบผ่านทั้ง 3 วิชา ได้แก่
ความรู้
ความสามารถทั่วไปด้านการคิดและวิเคราะห์ (คณิตและภาษาไทย)
ภาษาอังกฤษ
ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี (กฎหมาย ก.พ.)
ซึ่งจะจัดสอบ 3 รอบ ได้แก่
สอบก.พ. ภาค ก. แบบ e-Exam คือการสอบสำหรับบุคคลทั่วไป แต่จะทำข้อสอบด้วยคอมพิวเตอร์ และเปิดรับสมัครคนละรอบกับ paper and
pencil
สอบก.พ. ภาค ก. แบบ Paper and Pencil (รอบปกติ) คือการสอบ ก.พ. ภาคปกติสำหรับผู้สนใจทั่วไป เป็นการทำข้อสอบด้วยการฝน
กระดาษคำตอบแบบเดิม
สอบก.พ. ภาค ก. พิเศษ คือ การสอบที่เปิดให้กับผู้ที่สอบผ่านการสอบของส่วนราชการแล้ว (สอบผ่านภาค ข. แล้ว) ซึ่งส่วนราชการดังกล่าวจะ
ต้องเป็นส่วนราชการที่ได้วางแผนและประสานงานร่วมกับสำนักงาน ก.พ. เพื่อเปิดสอบภาค ก. พิเศษไว้ล่วงหน้า และจะได้รับหนังสือรับรองผล
การสอบผ่านฯ เช่นเดียวกับผู้สอบภาค ก. ที่ สำนักงาน ก.พ. จัดสอบประจำปี
สำหรับผู้ที่สอบผ่านการสอบภาค ก. แล้ว สามารถนำผลสอบไป
สมัครที่หน่วยงานราชการต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ได้ หรือสามารถนำไปแสดงเพื่อใช้สอบภาค ข. และ ภาค ค. ต่อไปได้
2. ภาค ข.
คือ การสอบภาคความสามารถเฉพาะตำแหน่ง เป็นการสอบที่เน้นใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง เช่น นักวิเคราะห์นโยบายและ
แผนปฏิบัติการ, นิติกร, เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน เป็นต้น โดยข้อสอบจะเป็นการสอบแบบข้อเขียน และผู้สอบต้องนำหนังสือรับรอง
มายืนยันว่าได้สอบผ่าน ภาค ก. แล้วจึงจะสมัครได้
📌 ความสำคัญของการสอบ ก.พ. ในการสมัครงานราชการ
การสอบ ก.พ. หรือ การสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป จัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ถือเป็นประตูด่านแรก
ที่ผู้ต้องการเข้ารับราชการจำเป็นต้องผ่านให้ได้ก่อน เพื่อที่จะมีสิทธิ์สมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่กำหนด ซึ่งความ
สำคัญของการสอบ ก.พ. มีดังนี้
1. เป็นเกณฑ์พื้นฐานสำหรับการสมัครงานราชการ
การสอบ ก.พ. ถือเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้วัดความรู้ความสามารถของผู้สมัครทั่วประเทศ ผู้ที่ผ่านการ สอบ ก.พ. จะได้รับ หนังสือรับรองผลการ
สอบผ่าน ก.พ. ซึ่งเป็นคุณสมบัติขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับการสมัครสอบบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนในตำแหน่งต่าง ๆ โดยไม่ว่าจะเป็นหน่วย
งานราชการใดก็ตาม หนังสือรับรองการสอบผ่าน ก.พ. นี้มักเป็นสิ่งที่ต้องยื่นประกอบการสมัครสอบทุกครั้ง
2. วัดความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐานของผู้สมัคร
ข้อสอบ ก.พ. ประกอบด้วยการวัดทักษะต่าง ๆ ที่สำคัญสำหรับการทำงานในภาคราชการ เช่น
ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เช่น คณิตศาสตร์
พื้นฐาน การตีความข้อมูล และการใช้เหตุผล
ความสามารถในการใช้ภาษาไทย เช่น การอ่านจับใจความ การเขียนประโยคให้ถูกต้องตามหลัก
ภาษาความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งมักเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบัน
การสอบ ก.พ. จึงเป็นการประเมินเบื้องต้นว่าว่าที่ข้าราชการมีความพร้อมในด้านทักษะที่จำเป็นก่อนเข้าสู่สนามสอบแข่งขันในระดับสูงต่อไป
3. เพิ่มโอกาสในการบรรจุเข้ารับราชการ
การผ่านการสอบ ก.พ. ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการทันที แต่จะเป็นใบเบิกทางที่ทำให้ผู้สมัครสามารถยื่นสมัครสอบใน
ตำแหน่งต่าง ๆ ได้ตามที่เปิดรับในปีนั้น ๆ ซึ่งการผ่านการสอบ ก.พ. จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้สมัครสามารถเข้าร่วมการสอบแข่งขันในตำแหน่งที่
สนใจ และเมื่อผ่านการสอบแข่งขันในขั้นตอนถัดไป จึงจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ
4. ช่วยคัดกรองบุคลากรที่มีคุณภาพ
การสอบ ก.พ. เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้หน่วยงานราชการได้บุคลากรที่มีความสามารถมาตรฐานตามที่กำหนด โดยใช้การสอบเป็นเกณฑ์คัดกรอง
บุคคลที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมทั้งในด้านความรู้ ความคิดวิเคราะห์ และการใช้ภาษา ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการปฏิบัติราชการ
ให้เกิดประสิทธิภาพ
5. การสอบ ก.พ. ช่วยสร้างความเท่าเทียม
การสอบ ก.พ. เป็นการจัดสอบกลางทั่วประเทศ ซึ่งถือว่ามีความโปร่งใส และเท่าเทียม เนื่องจากทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบในรูปแบบเดียวกัน
โดยไม่มีการแบ่งแยก ไม่ว่าจะจบการศึกษาจากสถาบันไหน หรือมีภูมิหลังเป็นอย่างไร ผู้ที่มีความสามารถและเตรียมความพร้อมมาดีย่อมมีโอกาส
ผ่านการสอบ ก.พ. อย่างเท่าเทียมกัน
6. สร้างเส้นทางสู่ความมั่นคงในอาชีพ
การเป็นข้าราชการนับเป็นหนึ่งในอาชีพที่หลายคนมองว่ามีความมั่นคง ทั้งในเรื่องของรายได้ สวัสดิการ และความก้าวหน้าในสายอาชีพ
ซึ่งการสอบ ก.พ. เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ผู้สมัครสามารถเข้าสู่ระบบราชการได้ ผู้ที่มีหนังสือรับรองผ่าน ก.พ. สามารถสมัครสอบเข้ารับ
ราชการในตำแหน่งที่เปิดรับได้ตลอดตามระยะเวลาที่กำหนด
การสอบ ก.พ. มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานราชการ เนื่องจากเป็นด่านแรกที่ช่วยวัดความรู้ความสามารถของผู้สมัคร
ตามมาตรฐานที่กำหนด และยังเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครสามารถยื่นสมัครสอบในตำแหน่งที่สนใจได้ การเตรียมตัวสอบ ก.พ.
อย่างจริงจังและผ่านการสอบให้ได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สมัครทุกคนควรให้ความใส่ใจ เพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นข้าราชการที่มั่นคงต่อไป
🎁 ประโยชน์ที่ได้หลังผ่านการสอบ กพ
การสอบ ก.พ. หรือการทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เป็นขั้นตอนที่
ผู้ต้องการสมัครงานราชการทุกคนต้องผ่านให้ได้ก่อน จึงจะสามารถสมัครสอบบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยงานต่าง ๆ ได้ เมื่อผ่านการสอบ ก.พ.
แล้ว ผู้สอบจะได้รับประโยชน์หลายประการที่เป็นก้าวสำคัญสู่การทำงานที่มั่นคงและก้าวหน้าในชีวิต ดังนี้
📍 เป็นใบเบิกทางสู่การสมัครงานราชการ
ตัวอย่างหน่วยงานที่กำหนดให้ผ่าน ก.พ. เป็นคุณสมบัติเบื้องต้น ได้แก่
ผู้ที่ผ่านการสอบ ก.พ. จะได้รับ หนังสือรับรองผลการสอบผ่าน ก.พ. ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้เป็นเกณฑ์พื้นฐานในการสมัครสอบบรรจุเป็น
ข้าราชการในหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในระดับ ปฏิบัติการ (ปริญญาตรีขึ้นไป) และระดับ บริหาร การมีหนังสือรับรองนี้จะทำให้ผู้สมัครมีคุณสมบัติ
พร้อมสำหรับการยื่นสมัครสอบตำแหน่งราชการตามที่เปิดรับสมัคร
✔️ กระทรวงการคลัง
✔️ กระทรวงศึกษาธิการ
✔️ กระทรวงมหาดไทย
✔️ หน่วยงานท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ
📍เพิ่มโอกาสในการบรรจุเป็นข้าราชการ
การผ่านการสอบ ก.พ. หมายถึงการได้รับการยอมรับว่ามีความรู้ความสามารถตรงตามมาตรฐานกลางของภาคราชการ ซึ่งจะทำให้ผู้สมัคร
สามารถเข้าสอบแข่งขันในตำแหน่งที่เปิดรับตามหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาสอบหลายรอบ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถวางแผน
การสมัครสอบบรรจุได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างขั้นตอนหลังผ่าน ก.พ.:
✅ ผ่านการสอบ ก.พ. ภาค ก
✅ สมัครสอบบรรจุในตำแหน่งที่สนใจ (สอบภาค ข และ ค ตามลำดับ)
✅ บรรจุเข้ารับราชการ
📍เปิดโอกาสในการทำงานที่มั่นคงและมีสวัสดิการดี
การทำงานราชการถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความมั่นคงสูง ทั้งในเรื่องของรายได้ สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ภาครัฐจัดสรรให้ เช่น
✅ เงินเดือนตามโครงสร้างของภาครัฐ
✅ ค่ารักษาพยาบาลสำหรับข้าราชการและครอบครัว
✅ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (บำเหน็จและบำนาญเมื่อเกษียณอายุ)
✅ โอกาสในการศึกษาต่อและการพัฒนาตนเอง เช่น การอบรมในประเทศและต่างประเทศ
การผ่านการสอบ ก.พ. จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสู่เส้นทางของการทำงานที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
📍สร้างความมั่นใจและความภูมิใจในตนเอง
การสอบ ก.พ. เป็นการทดสอบความรู้ความสามารถที่มีความยากในระดับหนึ่ง การผ่านการสอบนี้ได้จึงถือเป็นความสำเร็จขั้นแรกที่แสดงให้เห็น
ว่าผู้สมัครมีความสามารถผ่านมาตรฐานกลางของประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในตนเองและทำให้เกิดความภูมิใจที่สามารถก้าวข้ามด่าน
สำคัญนี้ไปได้
นอกจากนี้ การผ่านการสอบ ก.พ. ยังช่วยให้ผู้สมัครมีทัศนคติที่ดีต่อการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะการสอบ ก.พ. ต้อง
อาศัยการเตรียมตัวและความขยันหมั่นเพียรเป็นอย่างมาก
📍เพิ่มโอกาสในการสมัครงานรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น ๆ
นอกจากการสมัครงานราชการแล้ว หลายหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและองค์กรอิสระต่าง ๆ ยังใช้ผลการสอบ ก.พ. เป็นหนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐาน
สำหรับการสมัครงาน เช่น
🌟 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
🌟 ธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
🌟 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
ดังนั้น การผ่านการสอบ ก.พ. จะช่วยเปิดโอกาสในการทำงานกับองค์กรอื่น ๆ ที่มีความมั่นคงนอกเหนือจากงานข้าราชการอีกด้วย
📍เป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตในสายงานราชการ
เมื่อผู้สมัครผ่านการสอบ ก.พ. และได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการแล้ว ยังสามารถใช้ประสบการณ์และความสามารถในการสอบเลื่อนตำแหน่ง
หรือปรับระดับงานให้สูงขึ้นได้ เช่น
🎉 สอบเพื่อเลื่อนระดับจากระดับปฏิบัติการเป็นระดับชำนาญการ
🎉 สอบเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งบริหาร เช่น ผู้อำนวยการ หรือผู้บริหารระดับสูง
การมีพื้นฐานที่มั่นคงจากการสอบ ก.พ. จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ข้าราชการสามารถเติบโตในสายงาน
และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างต่อเนื่อง
การผ่านการสอบ ก.พ. เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานราชการ ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสในการสมัครงาน บรรจุเข้ารับราชการ
และสร้างความมั่นคงในชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ความรู้ความสามารถของผู้สมัคร ช่วยสร้างความภูมิใจในตนเอง และเป็นพื้นฐาน
สำหรับการเติบโตในสายงานราชการอีกด้วย
การเตรียมตัวสอบ ก.พ. อย่างรอบคอบและมีวินัย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สมัครทุกคนควร
ให้ความสำคัญ เพื่อให้สามารถก้าวเข้าสู่เส้นทางการทำงานที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนต่อไปได้
💁🏻♀️ คำถามที่พบบ่อยเรื่องการสอบ ก.พ.
การสอบ ก.พ. เป็นการทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไปที่ใช้เป็นเกณฑ์พื้นฐานในการสมัครงานราชการในหน่วยงานต่าง ๆ หลายคนมีคำถาม
และข้อสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของการสอบนี้ เพื่อช่วยให้เข้าใจมากขึ้น บทความนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสอบ ก.พ.
พร้อมคำตอบที่ชัดเจนไว้ดังนี้
การสอบ ก.พ. เป็นการทดสอบที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานราชการ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- ภาค ก: การสอบความรู้ความสามารถทั่วไป
- ภาค ข: การสอบความรู้เฉพาะตำแหน่ง
- ภาค ค: การสอบสัมภาษณ์
ผู้ที่สามารถสมัครสอบ ก.พ. ได้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้:
- มีสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- สำเร็จการศึกษาตามระดับการสอบที่ต้องการ เช่น ปวช., ปวส., ปริญญาตรี หรือปริญญาโท
- ไม่เป็นบุคคลที่ต้องห้ามตามมาตรา 36 ของ พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน
การสอบ ก.พ. แบ่งออกเป็นหลายระดับตามวุฒิการศึกษาของผู้สมัคร ดังนี้:
- ระดับ ปวช.: สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
- ระดับ ปวส. หรือ อนุปริญญา: สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
- ระดับ ปริญญาตรี: สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
- ระดับ ปริญญาโท: สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท
แต่ละระดับจะมีข้อสอบและเกณฑ์การทดสอบที่เหมาะสมกับความรู้ในระดับนั้น ๆ
การสอบ ก.พ. ภาค ก ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่:
- ความสามารถทั่วไป
- การคำนวณทางคณิตศาสตร์
- การคิดวิเคราะห์เชิงเหตุผล
- การเชื่อมโยงข้อมูล
- ภาษาไทย
- ความเข้าใจภาษาไทย
- การใช้ภาษาไทย
- การอ่านจับใจความ
- ภาษาอังกฤษ
- ความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ได้แก่ Grammar, Vocabulary และ Reading Comprehension
การสมัครสอบ ก.พ. สามารถทำได้ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. (https://ocsc.go.th) โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบสอบ ก.พ.
- กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน
- เลือกระดับการสอบที่ต้องการสมัคร
- ชำระค่าสมัครสอบตามช่องทางที่กำหนด
- ตรวจสอบข้อมูลและพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ
โดยทั่วไป การสอบ ก.พ. ภาค ก จะจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง และประกาศรับสมัครสอบล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. อย่างไรก็ตาม ในบางปีอาจมีการจัดสอบเพิ่มเติมเพื่อรองรับผู้สมัครที่เพิ่มขึ้น
คะแนนสอบ ก.พ. มีอายุการใช้งาน ตลอดชีพ นั่นหมายความว่าหากผู้สอบสามารถสอบผ่านในระดับใดระดับหนึ่งแล้ว ก็ไม่ต้องสอบซ้ำอีกในระดับนั้น สามารถใช้ยื่นสมัครงานราชการได้ตลอดชีวิต
ความยากง่ายของการสอบ ก.พ. ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของผู้สอบ การเตรียมตัวที่ดีควรทำดังนี้:
- ศึกษาหลักสูตรและเนื้อหาที่ออกสอบ
- ฝึกทำข้อสอบเก่า และทำแบบทดสอบจำลอง
- วางแผนการอ่านหนังสือและทบทวนเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ
- ฝึกฝนการทำข้อสอบให้ตรงเวลา เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความมั่นใจ
เมื่อผู้สมัครสอบผ่าน ก.พ. ภาค ก แล้ว สามารถใช้ผลสอบนี้สมัครสอบบรรจุเป็นข้าราชการในหน่วยงานต่าง ๆ โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสอบ ภาค ข (ความรู้เฉพาะตำแหน่ง) และ ภาค ค (การสอบสัมภาษณ์) ตามประกาศรับสมัครของหน่วยงานนั้น ๆ
สามารถสมัครสอบใหม่ได้ในปีถัดไป ไม่มีการจำกัดจำนวนครั้งในการสมัครสอบ ผู้สมัครสามารถสอบจนกว่าจะผ่านและได้หนังสือรับรองผลการสอบ
ไม่จำเป็นต้องสมัครสอบทุกปี เพราะคะแนนสอบ ก.พ. ภาค ก มีอายุใช้งานตลอดชีพ หากสอบผ่านแล้วสามารถใช้ผลสอบเดิมสมัครงานได้เลย
ใช่ หลายหน่วยงาน เช่น รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรอิสระบางแห่ง กำหนดให้ผู้สมัครต้องผ่านการสอบ ก.พ. ภาค ก เป็นคุณสมบัติพื้นฐานในการสมัครงาน
สรุป
การสอบ ก.พ. เป็นการทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไปที่ใช้เป็นเกณฑ์พื้นฐานในการสมัครงานราชการในหน่วยงานต่าง ๆ หลายคนมีคำถาม
และข้อสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของการสอบนี้ เพื่อช่วยให้เข้าใจมากขึ้น บทความนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสอบ ก.พ.
พร้อมคำตอบที่ชัดเจนไว้ดังนี้