📌 ข้าราชการกทม
📣 ความสำคัญของข้าราชการ กทม.
ข้าราชการ กทม. มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับประชาชน ด้วยการบริหารงานที่ตอบสนอง
ความต้องการของคนในพื้นที่และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ข้าราชการเหล่านี้ยังเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็น
ปัญหาการจราจร น้ำท่วม หรือมลพิษ
การเป็นข้าราชการ กทม. จึงไม่ใช่เพียงแค่การทำงานประจำ แต่ยังเป็นการทำงานเพื่อสังคมที่ต้อง
ใช้ความรู้ ความสามารถ และจิตสาธารณะอย่างแท้จริง
บทบาทและหน้าที่ของข้าราชการ กทม.
ข้าราชการ กทม. มีบทบาทที่สำคัญในการปฏิบัติงานและบริหารจัดการด้านต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกรุงเทพมหานคร
ซึ่งครอบคลุมหลากหลายมิติ ได้แก่:
การบริหารงานท้องถิ่น
💡วางแผนและดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพฯ
💡ดูแลเรื่องการใช้ที่ดิน การวางผังเมือง และการก่อสร้าง
💡ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจในพื้นที่
การให้บริการสาธารณะ
💡การจัดเก็บขยะมูลฝอยและรักษาความสะอาดของเมือง
💡การดูแลระบบระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วม
💡การจัดการระบบขนส่งมวลชน เช่น การดูแลรถโดยสารสาธารณะและถนน
การส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต
💡ให้บริการด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาลในสังกัด กทม. และศูนย์บริการสาธารณสุข
💡ดูแลเรื่องการป้องกันโรค การควบคุมมลพิษ และการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม
การศึกษา
💡บริหารจัดการโรงเรียนในสังกัด กทม.
💡ส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในเขตกรุงเทพฯ
การบังคับใช้กฎหมายและระเบียบ
💡การออกใบอนุญาตต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการและการก่อสร้าง
💡การควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่
ประเภทของข้าราชการ กทม.
ข้าราชการ กทม. สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะงานและบทบาท ดังนี้
ข้าราชการสามัญ
💡ทำงานในสายงานทั่วไป เช่น เจ้าหน้าที่ปกครอง นักวิชาการ หรือวิศวกร
💡มีตำแหน่งตั้งแต่ระดับปฏิบัติงานจนถึงผู้บริหาร
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
💡ปฏิบัติงานในโรงเรียนสังกัด กทม.
💡มีหน้าที่สอนและบริหารงานด้านการศึกษา
ข้าราชการตำรวจเทศกิจ
💡รับผิดชอบงานด้านการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น การจัดการจราจร การบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น
การเข้าสู่ตำแหน่งข้าราชการ กทม.
การเข้ารับตำแหน่งข้าราชการ กทม. ต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกที่มีมาตรฐาน โดยขั้นตอนหลัก ๆ มีดังนี้
การสมัครสอบ
💡ผู้ที่สนใจต้องสมัครสอบผ่านช่องทางที่กรุงเทพมหานครกำหนด เช่น ทางออนไลน์หรือที่สำนักงานเขต
💡มีการระบุคุณสมบัติและเอกสารที่จำเป็น เช่น วุฒิการศึกษาและประสบการณ์ทำงาน
การสอบคัดเลือก
💡การสอบแบ่งออกเป็น ภาค ก (ความรู้พื้นฐาน), ภาค ข (ความรู้เฉพาะตำแหน่ง), และ ภาค ค (สัมภาษณ์)
💡บางตำแหน่งอาจมีการสอบปฏิบัติเพิ่มเติม เช่น ตำแหน่งวิศวกรหรือครู
การบรรจุแต่งตั้ง
💡ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ กทม. ตามตำแหน่งที่สมัคร
สิทธิประโยชน์และสวัสดิการของข้าราชการ กทม.
ข้าราชการ กทม. มีสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่หลากหลาย ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนชีวิตการทำงานและความมั่นคงของบุคลากร เช่น:
💡เงินเดือนและค่าตอบแทนที่เหมาะสม
💡สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล เช่น การเบิกค่ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐ
💡สิทธิในการลาพักผ่อนประจำปี ลาป่วย และลาคลอด
💡เงินบำนาญหรือเงินบำเหน็จหลังเกษียณ
💡การเข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะและการอบรม
ช่วงเวลาที่คาดว่าจะเปิดรับสมัคร
โดยปกติแล้วจะเปิดสอบ กทม. ประมาณปีละ 1 ครั้ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการเปิดรับสมัครข้าราชการเป็นระยะตลอดทั้งปี โดยไม่มีช่วงเวลา
ที่แน่นอน การเปิดรับสมัครจะขึ้นอยู่กับความต้องการและนโยบายของแต่ละหน่วยงานภายใน กทม.
นปี 2567 (2024) ที่ผ่านมา
มีการเปิดรับสมัครหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น
ค่าสมัครสอบข้าราชการ กทม. เท่าไหร่?
ค่าสมัครสอบ กทม. จะแบ่งตามเกณฑ์ โดยแต่ละเกณฑ์ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบจะไม่เท่ากัน ดังต่อไปนี้
💡ผู้สมัครสอบที่เป็นผู้สอบผ่านการวัดภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ของกรุงเทพมหานคร หรือเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความ
สามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. แล้ว ให้ชําระค่าธรรมเนียมสอบ จํานวน 400 บาท
💡ผู้สมัครสอบที่ยังไม่ได้เป็นผู้สอบผ่านการวัดภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ของกรุงเทพมหานคร และไม่ได้เป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้
ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ให้ชําระ ค่าธรรมเนียมสอบ จํานวน 500 บาท
💡ค่าธรรมเนียมธนาคารคารรวมกับค่าธรรมเนียมอินเทอร์เน็ต คิดสูงสุดไม่เกิน 30 บาท
ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบเป็นประจำ
การเปิดสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการจัดสอบตำแหน่งที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละหน่วยงานใน
กรุงเทพมหานคร โดยตำแหน่งที่มักเปิดสอบเป็นประจำสามารถแบ่งได้เป็นประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
สายบริหารทั่วไป
💡นักจัดการงานทั่วไป: ดูแลและบริหารงานด้านธุรการและงานสารบรรณในสำนักงาน
💡นักพัฒนาชุมชน: สนับสนุนและพัฒนากิจกรรมชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
💡เจ้าพนักงานธุรการ: จัดทำเอกสารและดูแลเอกสารต่าง ๆ
สายวิชาชีพเฉพาะทาง
💡นักวิชาการศึกษา: วางแผนและจัดการโครงการด้านการศึกษาในเขตพื้นที่
💡นักวิชาการสาธารณสุข: สนับสนุนงานด้านสุขภาพและบริการประชาชน
💡นักวิชาการเกษตร: ดูแลงานด้านพืชสวนและเกษตรกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร
💡นักวิเคราะห์นโยบายและแผน: จัดทำแผนงานและนโยบายเพื่อพัฒนาเมือง
สายปฏิบัติการ
💡ครูผู้ช่วย: ปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนที่สังกัดกรุงเทพมหานคร
💡พนักงานดับเพลิง: ทำหน้าที่ป้องกันและดับเพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ
💡นักวิชาการเกษตร: ดูแลงานด้านพืชสวนและเกษตรกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร
💡เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดและดูแลพื้นที่สาธารณะ
สายเทคนิคและวิศวกรรม
💡วิศวกรโยธา: ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
💡สถาปนิก: วางแผนและออกแบบโครงการทางสถาปัตยกรรม
💡เจ้าหน้าที่เทคนิคไฟฟ้า: ดูแลระบบไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
สายบริการประชาชน
💡พนักงานบริการ: ให้บริการประชาชนในงานด้านต่าง ๆ เช่น การรับเรื่องร้องเรียน
💡เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์: สื่อสารข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานสู่ประชาชน
สายสาธารณสุขและการแพทย์
💡พยาบาลวิชาชีพ: ให้บริการด้านสุขภาพและรักษาพยาบาล
💡เจ้าพนักงานสาธารณสุข: สนับสนุนงานบริการสุขภาพในพื้นที่
💡เภสัชกร: จัดการงานด้านยาและสุขภาพในโรงพยาบาลหรือหน่วยงานสาธารณสุข
สายรักษาความปลอดภัย
💡เจ้าหน้าที่เทศกิจ: ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น การจัดการตลาดและหาบเร่แผงลอย
💡เจ้าหน้าที่ตรวจการจราจร: สนับสนุนการจัดการจราจรในพื้นที่
ตำแหน่งเฉพาะกรณี
นอกเหนือจากตำแหน่งที่กล่าวมาข้างต้น กทม. อาจเปิดสอบตำแหน่งพิเศษตามความจำเป็น เช่น นักวิจัย หรือเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อสนับสนุนโครงการที่สำคัญในช่วงเวลานั้น ๆ
หมายเหตุ
ผู้ที่สนใจสมัครสอบข้าราชการ กทม. ควรศึกษาประกาศรับสมัครแต่ละครั้งอย่างละเอียด เพื่อทราบคุณสมบัติที่ต้องการและแนวทางการ
เตรียมตัวสอบให้ตรงกับตำแหน่งที่สนใจ
ตัวอย่างหน่วยงานที่คาดว่าจะเปิดสอบ
ตัวอย่างหน่วยงานที่คาดว่าจะเปิดสอบ
การเปิดสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มักมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเปิดสอบเป็นประจำ
ขึ้นอยู่กับความต้องการบุคลากรในแต่ละปี ตัวอย่างหน่วยงานที่คาดว่าจะเปิดสอบมีดังนี้
สำนักงานเขต
แต่ละเขตในกรุงเทพมหานคร (รวมทั้งหมด 50 เขต) มีความต้องการบุคลากรเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในระดับท้องถิ่น เช่น
💡นักพัฒนาชุมชน
💡เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
💡พนักงานบริการ
สำนักการศึกษา
รับผิดชอบด้านการจัดการศึกษาในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร
💡ครูผู้ช่วย (ในหลากหลายสาขาวิชา เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์)
💡เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียน
สำนักการแพทย์
ดูแลโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร เช่น โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ฯลฯ
💡พยาบาลวิชาชีพ
💡เภสัชกร
💡เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ดูแลงานด้านความปลอดภัยของประชาชน
สำนักการโยธา
💡พนักงานดับเพลิง
💡เจ้าหน้าที่กู้ภัย
รับผิดชอบด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน
💡วิศวกรโยธา
💡ช่างเทคนิคไฟฟ้า
💡สถาปนิก
สำนักสิ่งแวดล้อม
ดูแลด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและความสะอาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
💡เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม
💡พนักงานเก็บขยะและรักษาความสะอาด
สำนักเทศกิจ
รับผิดชอบด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่
💡เจ้าหน้าที่เทศกิจ
💡เจ้าหน้าที่ตรวจการตลาด
สำนักการคลัง
ดูแลงานด้านการเงิน การบัญชี และการงบประมาณ
💡นักการเงินและบัญชี
💡เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาษี
สำนักการจราจรและขนส่ง
ดูแลการบริหารจัดการจราจรและระบบขนส่งในกรุงเทพฯ
💡เจ้าหน้าที่ตรวจการจราจร
💡 วิศวกรจราจร
สำนักการวางผังเมือง
รับผิดชอบด้านการวางผังเมืองและพัฒนาพื้นที่กรุงเทพฯ
💡นักผังเมือง
💡 สถาปนิก
สำนักอนามัย
ดูแลด้านสุขภาพและอนามัยของประชาชน
💡เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพ
💡 นักโภชนาการ
หมายเหตุ
หน่วยงานที่เปิดสอบแต่ละครั้งอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการบุคลากรในแต่ละปีและงบประมาณประจำปีของกรุงเทพมหานคร
ควรติดตามประกาศจาก สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องเพื่อข้อมูลที่อัปเดตล่าสุด
การแต่งกายเพื่อไปสอบข้าราชการ กทม.
การแต่งกายเพื่อไปสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถือเป็นส่วนสำคัญที่ผู้เข้าสอบควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการแต่งตัวที่เหมาะ
สมไม่เพียงแสดงถึงความเป็นระเบียบและความเคารพต่อกฎระเบียบของการสอบ แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและความตั้งใจของผู้เข้า
สอบด้วย โดยมีแนวทางดังนี้
🙋🏻 การแต่งกายสำหรับผู้ชาย ✅
👔 ชุดที่เหมาะสม
✅ เสื้อ: ควรเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีสุภาพ เช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน หรือสีครีม โดยไม่ควรมีลวดลายที่เด่นชัด
✅ กางเกง: กางเกงสแล็คหรือกางเกงผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ สีเทา หรือสีน้ำเงิน
✅ รองเท้า: รองเท้าหนังแบบสุภาพ ควรเลือกสีดำหรือสีน้ำตาล และควรขัดรองเท้าให้ดูเรียบร้อย
✅ เข็มขัด: ควรใช้เข็มขัดหนังสีดำหรือสีน้ำตาลที่เหมาะสมกับรองเท้า
❌ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ❌
❗️ ห้ามใส่เสื้อยืดหรือเสื้อโปโล
❗️ ห้ามใส่กางเกงยีนส์หรือกางเกงขาสั้น
❗️ หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้าใบ
🙋🏻♀️ การแต่งกายสำหรับผู้หญิง ✅
👔 ชุดที่เหมาะสม
✅ เสื้อ: เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อแบบสุภาพ สีขาว สีฟ้า หรือสีอ่อน ควรเป็นเสื้อที่ไม่มีลวดลายโดดเด่น
✅ กระโปรงหรือกางเกง:
หากเลือกกระโปรง ควรเป็นกระโปรงทรงเอหรือทรงตรงที่มีความยาวคลุมเข่า สีสุภาพ เช่น สีดำ สีกรม หรือสีเทา
หากเลือกกางเกง ควรเป็นกางเกงผ้าสีเข้ม เช่น สีดำหรือสีเทา
✅ รองเท้า: รองเท้าคัชชูหรือรองเท้าหุ้มส้นสีสุภาพ ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีความสูงมากเกินไป
❌ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ❌
❗️ ห้ามใส่เสื้อแขนกุด เสื้อสายเดี่ยว หรือเสื้อที่มีลวดลายฉูดฉาด
❗️ หลีกเลี่ยงกระโปรงหรือกางเกงที่สั้นเกินไป
❗️ ห้ามใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าแตะแบบสาน
สิ่งที่ควรเพิ่มเติมสำหรับทั้งชายและหญิง ☑️
☑️ เครื่องประดับ: ควรเลือกเครื่องประดับที่เรียบง่าย เช่น นาฬิกา
☑️ ทรงผม:สำหรับผู้ชาย ควรตัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อย และโกนหนวดเคราให้สะอาด
สำหรับผู้หญิง ควรรวบหรือจัดแต่งทรงผมให้ดูสุภาพ
☑️ หน้ากากอนามัย: เนื่องจากการสอบในปัจจุบันยังอาจอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโรค ผู้เข้าสอบควรเตรียมหน้ากากอนามัยที่สุภาพ เช่น
สีขาวหรือสีดำ
หลีกเลี่ยงการปล่อยผมแบบรุงรัง
การปฏิบัติตัวในวันสอบ
✔️ ควรแต่งกายให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน และตรวจสอบความพร้อมของเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน และใบสมัครสอบ
✔️ ควรไปถึงสถานที่สอบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงความเร่งรีบ
✔️ แสดงความสุภาพเรียบร้อยทั้งในการแต่งกายและมารยาทระหว่างการสอบ
ข้อควรจำ
การแต่งกายที่เรียบร้อยไม่เพียงช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองในระหว่างการสอบ การแสดงถึงความ
เป็นมืออาชีพตั้งแต่การแต่งกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
🙋🏻♀️ การแต่งกายสำหรับผู้หญิง ✅
ขึ้นอยู่กับระเบียบและขั้นตอนของหน่วยงานผู้จัดสอบในแต่ละปี ซึ่งโดยทั่วไปจะมีลักษณะดังนี้
การกำหนดสถานที่สอบ
กรณีที่ผู้เข้าสอบสามารถเลือกสถานที่สอบได้
✔️ บางครั้งหน่วยงานอาจเปิดโอกาสให้ผู้สมัครสอบเลือกสถานที่สอบตามที่สะดวกในขั้นตอนการสมัคร เช่น
ผู้สมัครสามารถเลือกสนามสอบ
ใกล้ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงาน
✔️ มีตัวเลือกให้เลือกจากสนามสอบที่กำหนดไว้ในระบบ เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือศูนย์สอบในพื้นที่ต่าง ๆ
✔️ ระบบจะเปิดให้เลือกสถานที่สอบในช่วงเวลาที่สมัคร และอาจมีการปิดตัวเลือกเมื่อสนามสอบนั้นเต็ม
🎲 กรณีที่หน่วยงานสุ่มสถานที่สอบให้
หากไม่ได้เปิดให้เลือกสถานที่สอบ หน่วยงานจะใช้วิธี สุ่มหรือจัดสรรสนามสอบ โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น
✔️ เลือกสนามสอบใกล้ที่อยู่ตามที่ผู้สมัครกรอกในใบสมัคร
✔️ กระจายผู้เข้าสอบอย่างเท่าเทียมในแต่ละสนามสอบเพื่อความสะดวกในการจัดการ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดสนามสอบ
✔️ จำนวนผู้สมัครสอบ: หากมีผู้สมัครสอบจำนวนมาก การเลือกหรือการจัดสรรสนามสอบจะถูกวางแผนเพื่อให้รองรับผู้สอบทั้งหมดได้
✔️ สถานที่จัดสอบหน่วยงานมักเลือกสถานที่สอบที่มีความพร้อมเช่นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่มีห้องสอบเพียงพอและสะดวกต่อการเดินทาง
✔️ ภูมิภาคหรือเขต: การจัดสอบอาจแบ่งตามเขตหรือพื้นที่ เช่น เขตในกรุงเทพฯ หรือเขตปริมณฑล
การตรวจสอบสถานที่สอบ
✔️ หลังจากสมัครสอบแล้ว หน่วยงานจะประกาศสถานที่สอบให้ผู้เข้าสอบทราบผ่านทาง เว็บไซต์ของหน่วยงานผู้จัดสอบ
อีเมลหรือข้อความ
SMS (หากหน่วยงานรองรับ)
✔️ ผู้เข้าสอบต้องตรวจสอบข้อมูล เช่น ชื่อสนามสอบ
เลขที่นั่งสอบ
วันและเวลาสอบ
ข้อแนะนำเกี่ยวกับสถานที่สอบ
✔️ หากสามารถเลือกสนามสอบได้:
เลือกสนามสอบที่ใกล้บ้านหรือเดินทางสะดวกที่สุด
ตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง เช่น เส้นทางรถเมล์หรือ
รถไฟฟ้า เพื่อป้องกันการไปสาย
✔️ หากสุ่มหรือจัดสรรให้:
ควรตรวจสอบสถานที่สอบล่วงหน้า และสำรวจเส้นทางก่อนวันสอบจริง
ไปถึงสถานที่สอบอย่างน้อย 30-60 นาที
ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเร่งรีบ
ตัวอย่างปัญหาและการแก้ไข
✔️ ปัญหา: สถานที่สอบอยู่ไกลหรือเดินทางไม่สะดวก
ควรเตรียมแผนเดินทางล่วงหน้า เช่น การจองที่พักใกล้สถานที่สอบ
✔️ ปัญหา: สนามสอบเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
ติดตามประกาศจากหน่วยงานอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบข้อมูลใหม่ทันที
หมายเหตุ
การเลือกหรือสุ่มสถานที่สอบในแต่ละปีอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบและแนวทางของหน่วยงานผู้จัดสอบในปีนั้น ๆ