ทดลองเรียน ติวสอบราชการ ได้สายงานมูลค่า  590 บาท “ฟรี”

สอบข้าราชการกทม. พร้อมข้อมูลที่ต้องรู้

สอบข้าราชการ กทม. พร้อมข้อมูลที่ต้องรู้ 

📌 ข้าราชการกทม

📣 ความสำคัญของข้าราชการ กทม.

ข้าราชการ กทม. มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับประชาชน ด้วยการบริหารงานที่ตอบสนอง

ความต้องการของคนในพื้นที่และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ข้าราชการเหล่านี้ยังเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็น

ปัญหาการจราจร น้ำท่วม หรือมลพิษ การเป็นข้าราชการ กทม. จึงไม่ใช่เพียงแค่การทำงานประจำ แต่ยังเป็นการทำงานเพื่อสังคมที่ต้อง

ใช้ความรู้ ความสามารถ และจิตสาธารณะอย่างแท้จริง

บทบาทและหน้าที่ของข้าราชการ กทม.

ข้าราชการ กทม. มีบทบาทที่สำคัญในการปฏิบัติงานและบริหารจัดการด้านต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกรุงเทพมหานคร

ซึ่งครอบคลุมหลากหลายมิติ ได้แก่:

การบริหารงานท้องถิ่น

💡วางแผนและดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่กรุงเทพฯ

💡ดูแลเรื่องการใช้ที่ดิน การวางผังเมือง และการก่อสร้าง

💡ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจในพื้นที่

การให้บริการสาธารณะ

💡การจัดเก็บขยะมูลฝอยและรักษาความสะอาดของเมือง

💡การดูแลระบบระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วม

💡การจัดการระบบขนส่งมวลชน เช่น การดูแลรถโดยสารสาธารณะและถนน

การส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต

💡ให้บริการด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาลในสังกัด กทม. และศูนย์บริการสาธารณสุข

💡ดูแลเรื่องการป้องกันโรค การควบคุมมลพิษ และการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม

การศึกษา

💡บริหารจัดการโรงเรียนในสังกัด กทม.

💡ส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในเขตกรุงเทพฯ

การบังคับใช้กฎหมายและระเบียบ

💡การออกใบอนุญาตต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการและการก่อสร้าง

💡การควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

ประเภทของข้าราชการ กทม.

ข้าราชการ กทม. สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะงานและบทบาท ดังนี้

ข้าราชการสามัญ

💡ทำงานในสายงานทั่วไป เช่น เจ้าหน้าที่ปกครอง นักวิชาการ หรือวิศวกร

💡มีตำแหน่งตั้งแต่ระดับปฏิบัติงานจนถึงผู้บริหาร

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

💡ปฏิบัติงานในโรงเรียนสังกัด กทม.

💡มีหน้าที่สอนและบริหารงานด้านการศึกษา

ข้าราชการตำรวจเทศกิจ

💡รับผิดชอบงานด้านการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น การจัดการจราจร การบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น

การเข้าสู่ตำแหน่งข้าราชการ กทม.

การเข้ารับตำแหน่งข้าราชการ กทม. ต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกที่มีมาตรฐาน โดยขั้นตอนหลัก ๆ มีดังนี้

การสมัครสอบ

💡ผู้ที่สนใจต้องสมัครสอบผ่านช่องทางที่กรุงเทพมหานครกำหนด เช่น ทางออนไลน์หรือที่สำนักงานเขต

💡มีการระบุคุณสมบัติและเอกสารที่จำเป็น เช่น วุฒิการศึกษาและประสบการณ์ทำงาน

การสอบคัดเลือก

💡การสอบแบ่งออกเป็น ภาค ก (ความรู้พื้นฐาน), ภาค ข (ความรู้เฉพาะตำแหน่ง), และ ภาค ค (สัมภาษณ์)

💡บางตำแหน่งอาจมีการสอบปฏิบัติเพิ่มเติม เช่น ตำแหน่งวิศวกรหรือครู

การบรรจุแต่งตั้ง

💡ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ กทม. ตามตำแหน่งที่สมัคร

สิทธิประโยชน์และสวัสดิการของข้าราชการ กทม.

ข้าราชการ กทม. มีสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่หลากหลาย ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนับสนุนชีวิตการทำงานและความมั่นคงของบุคลากร เช่น:

💡เงินเดือนและค่าตอบแทนที่เหมาะสม

💡สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล เช่น การเบิกค่ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐ

💡สิทธิในการลาพักผ่อนประจำปี ลาป่วย และลาคลอด

💡เงินบำนาญหรือเงินบำเหน็จหลังเกษียณ

💡การเข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะและการอบรม

ช่วงเวลาที่คาดว่าจะเปิดรับสมัคร

โดยปกติแล้วจะเปิดสอบ กทม. ประมาณปีละ 1 ครั้ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการเปิดรับสมัครข้าราชการเป็นระยะตลอดทั้งปี โดยไม่มีช่วงเวลา

ที่แน่นอน การเปิดรับสมัครจะขึ้นอยู่กับความต้องการและนโยบายของแต่ละหน่วยงานภายใน กทม. นปี 2567 (2024) ที่ผ่านมา

มีการเปิดรับสมัครหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น

ค่าสมัครสอบข้าราชการ กทม. เท่าไหร่?

ค่าสมัครสอบ กทม. จะแบ่งตามเกณฑ์ โดยแต่ละเกณฑ์ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบจะไม่เท่ากัน ดังต่อไปนี้

💡ผู้สมัครสอบที่เป็นผู้สอบผ่านการวัดภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ของกรุงเทพมหานคร หรือเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความ

สามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. แล้ว ให้ชําระค่าธรรมเนียมสอบ จํานวน 400 บาท

💡ผู้สมัครสอบที่ยังไม่ได้เป็นผู้สอบผ่านการวัดภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ของกรุงเทพมหานคร และไม่ได้เป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้

ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ให้ชําระ ค่าธรรมเนียมสอบ จํานวน 500 บาท

💡ค่าธรรมเนียมธนาคารคารรวมกับค่าธรรมเนียมอินเทอร์เน็ต คิดสูงสุดไม่เกิน 30 บาท

ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบเป็นประจำ

การเปิดสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการจัดสอบตำแหน่งที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละหน่วยงานใน

กรุงเทพมหานคร โดยตำแหน่งที่มักเปิดสอบเป็นประจำสามารถแบ่งได้เป็นประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

สายบริหารทั่วไป

💡นักจัดการงานทั่วไป: ดูแลและบริหารงานด้านธุรการและงานสารบรรณในสำนักงาน

💡นักพัฒนาชุมชน: สนับสนุนและพัฒนากิจกรรมชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

💡เจ้าพนักงานธุรการ: จัดทำเอกสารและดูแลเอกสารต่าง ๆ

สายวิชาชีพเฉพาะทาง

💡นักวิชาการศึกษา: วางแผนและจัดการโครงการด้านการศึกษาในเขตพื้นที่

💡นักวิชาการสาธารณสุข: สนับสนุนงานด้านสุขภาพและบริการประชาชน

💡นักวิชาการเกษตร: ดูแลงานด้านพืชสวนและเกษตรกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร

💡นักวิเคราะห์นโยบายและแผน: จัดทำแผนงานและนโยบายเพื่อพัฒนาเมือง

สายปฏิบัติการ

💡ครูผู้ช่วย: ปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนที่สังกัดกรุงเทพมหานคร

💡พนักงานดับเพลิง: ทำหน้าที่ป้องกันและดับเพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ

💡นักวิชาการเกษตร: ดูแลงานด้านพืชสวนและเกษตรกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร

💡เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดและดูแลพื้นที่สาธารณะ

สายเทคนิคและวิศวกรรม

💡วิศวกรโยธา: ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน

💡สถาปนิก: วางแผนและออกแบบโครงการทางสถาปัตยกรรม

💡เจ้าหน้าที่เทคนิคไฟฟ้า: ดูแลระบบไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

สายบริการประชาชน

💡พนักงานบริการ: ให้บริการประชาชนในงานด้านต่าง ๆ เช่น การรับเรื่องร้องเรียน

💡เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์: สื่อสารข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานสู่ประชาชน

สายสาธารณสุขและการแพทย์

💡พยาบาลวิชาชีพ: ให้บริการด้านสุขภาพและรักษาพยาบาล

💡เจ้าพนักงานสาธารณสุข: สนับสนุนงานบริการสุขภาพในพื้นที่

💡เภสัชกร: จัดการงานด้านยาและสุขภาพในโรงพยาบาลหรือหน่วยงานสาธารณสุข

สายรักษาความปลอดภัย

💡เจ้าหน้าที่เทศกิจ: ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น การจัดการตลาดและหาบเร่แผงลอย

💡เจ้าหน้าที่ตรวจการจราจร: สนับสนุนการจัดการจราจรในพื้นที่

ตำแหน่งเฉพาะกรณี

นอกเหนือจากตำแหน่งที่กล่าวมาข้างต้น กทม. อาจเปิดสอบตำแหน่งพิเศษตามความจำเป็น เช่น นักวิจัย หรือเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม

เพื่อสนับสนุนโครงการที่สำคัญในช่วงเวลานั้น ๆ

หมายเหตุ

ผู้ที่สนใจสมัครสอบข้าราชการ กทม. ควรศึกษาประกาศรับสมัครแต่ละครั้งอย่างละเอียด เพื่อทราบคุณสมบัติที่ต้องการและแนวทางการ

เตรียมตัวสอบให้ตรงกับตำแหน่งที่สนใจ

ตัวอย่างหน่วยงานที่คาดว่าจะเปิดสอบ

ตัวอย่างหน่วยงานที่คาดว่าจะเปิดสอบ การเปิดสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มักมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเปิดสอบเป็นประจำ

ขึ้นอยู่กับความต้องการบุคลากรในแต่ละปี ตัวอย่างหน่วยงานที่คาดว่าจะเปิดสอบมีดังนี้

สำนักงานเขต

แต่ละเขตในกรุงเทพมหานคร (รวมทั้งหมด 50 เขต) มีความต้องการบุคลากรเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในระดับท้องถิ่น เช่น

💡นักพัฒนาชุมชน

💡เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์

💡พนักงานบริการ

สำนักการศึกษา

รับผิดชอบด้านการจัดการศึกษาในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร

💡ครูผู้ช่วย (ในหลากหลายสาขาวิชา เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์)

💡เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียน

สำนักการแพทย์

ดูแลโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร เช่น โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ฯลฯ

💡พยาบาลวิชาชีพ

💡เภสัชกร

💡เจ้าหน้าที่สาธารณสุข

สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ดูแลงานด้านความปลอดภัยของประชาชน

สำนักการโยธา

💡พนักงานดับเพลิง

💡เจ้าหน้าที่กู้ภัย

รับผิดชอบด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน

💡วิศวกรโยธา

💡ช่างเทคนิคไฟฟ้า

💡สถาปนิก

สำนักสิ่งแวดล้อม

ดูแลด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและความสะอาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

💡เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม

💡พนักงานเก็บขยะและรักษาความสะอาด

สำนักเทศกิจ

รับผิดชอบด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

💡เจ้าหน้าที่เทศกิจ

💡เจ้าหน้าที่ตรวจการตลาด

สำนักการคลัง

ดูแลงานด้านการเงิน การบัญชี และการงบประมาณ

💡นักการเงินและบัญชี

💡เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาษี

สำนักการจราจรและขนส่ง

ดูแลการบริหารจัดการจราจรและระบบขนส่งในกรุงเทพฯ

💡เจ้าหน้าที่ตรวจการจราจร

💡 วิศวกรจราจร

สำนักการวางผังเมือง

รับผิดชอบด้านการวางผังเมืองและพัฒนาพื้นที่กรุงเทพฯ

💡นักผังเมือง

💡 สถาปนิก

สำนักอนามัย

ดูแลด้านสุขภาพและอนามัยของประชาชน

💡เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพ

💡 นักโภชนาการ

หมายเหตุ

หน่วยงานที่เปิดสอบแต่ละครั้งอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการบุคลากรในแต่ละปีและงบประมาณประจำปีของกรุงเทพมหานคร

ควรติดตามประกาศจาก สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องเพื่อข้อมูลที่อัปเดตล่าสุด

การแต่งกายเพื่อไปสอบข้าราชการ กทม.

การแต่งกายเพื่อไปสอบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถือเป็นส่วนสำคัญที่ผู้เข้าสอบควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการแต่งตัวที่เหมาะ

สมไม่เพียงแสดงถึงความเป็นระเบียบและความเคารพต่อกฎระเบียบของการสอบ แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและความตั้งใจของผู้เข้า

สอบด้วย โดยมีแนวทางดังนี้

🙋🏻 การแต่งกายสำหรับผู้ชาย ✅

👔 ชุดที่เหมาะสม

✅ เสื้อ: ควรเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีสุภาพ เช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน หรือสีครีม โดยไม่ควรมีลวดลายที่เด่นชัด

✅ กางเกง: กางเกงสแล็คหรือกางเกงผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ สีเทา หรือสีน้ำเงิน

✅ รองเท้า: รองเท้าหนังแบบสุภาพ ควรเลือกสีดำหรือสีน้ำตาล และควรขัดรองเท้าให้ดูเรียบร้อย

✅ เข็มขัด: ควรใช้เข็มขัดหนังสีดำหรือสีน้ำตาลที่เหมาะสมกับรองเท้า

❌ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ❌

❗️ ห้ามใส่เสื้อยืดหรือเสื้อโปโล

❗️ ห้ามใส่กางเกงยีนส์หรือกางเกงขาสั้น

❗️ หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้าใบ

🙋🏻‍♀️ การแต่งกายสำหรับผู้หญิง ✅

👔 ชุดที่เหมาะสม

✅ เสื้อ: เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อแบบสุภาพ สีขาว สีฟ้า หรือสีอ่อน ควรเป็นเสื้อที่ไม่มีลวดลายโดดเด่น

✅ กระโปรงหรือกางเกง: หากเลือกกระโปรง ควรเป็นกระโปรงทรงเอหรือทรงตรงที่มีความยาวคลุมเข่า สีสุภาพ เช่น สีดำ สีกรม หรือสีเทา

หากเลือกกางเกง ควรเป็นกางเกงผ้าสีเข้ม เช่น สีดำหรือสีเทา

✅ รองเท้า: รองเท้าคัชชูหรือรองเท้าหุ้มส้นสีสุภาพ ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีความสูงมากเกินไป

❌ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ❌

❗️ ห้ามใส่เสื้อแขนกุด เสื้อสายเดี่ยว หรือเสื้อที่มีลวดลายฉูดฉาด

❗️ หลีกเลี่ยงกระโปรงหรือกางเกงที่สั้นเกินไป

❗️ ห้ามใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าแตะแบบสาน

สิ่งที่ควรเพิ่มเติมสำหรับทั้งชายและหญิง ☑️

☑️ เครื่องประดับ: ควรเลือกเครื่องประดับที่เรียบง่าย เช่น นาฬิกา

☑️ ทรงผม:สำหรับผู้ชาย ควรตัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อย และโกนหนวดเคราให้สะอาด สำหรับผู้หญิง ควรรวบหรือจัดแต่งทรงผมให้ดูสุภาพ

☑️ หน้ากากอนามัย: เนื่องจากการสอบในปัจจุบันยังอาจอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโรค ผู้เข้าสอบควรเตรียมหน้ากากอนามัยที่สุภาพ เช่น

สีขาวหรือสีดำ หลีกเลี่ยงการปล่อยผมแบบรุงรัง

การปฏิบัติตัวในวันสอบ

✔️ ควรแต่งกายให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน และตรวจสอบความพร้อมของเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน และใบสมัครสอบ

✔️ ควรไปถึงสถานที่สอบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงความเร่งรีบ

✔️ แสดงความสุภาพเรียบร้อยทั้งในการแต่งกายและมารยาทระหว่างการสอบ

ข้อควรจำ

การแต่งกายที่เรียบร้อยไม่เพียงช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองในระหว่างการสอบ การแสดงถึงความ

เป็นมืออาชีพตั้งแต่การแต่งกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

🙋🏻‍♀️ การแต่งกายสำหรับผู้หญิง ✅

ขึ้นอยู่กับระเบียบและขั้นตอนของหน่วยงานผู้จัดสอบในแต่ละปี ซึ่งโดยทั่วไปจะมีลักษณะดังนี้

การกำหนดสถานที่สอบ

กรณีที่ผู้เข้าสอบสามารถเลือกสถานที่สอบได้

✔️ บางครั้งหน่วยงานอาจเปิดโอกาสให้ผู้สมัครสอบเลือกสถานที่สอบตามที่สะดวกในขั้นตอนการสมัคร เช่น ผู้สมัครสามารถเลือกสนามสอบ

ใกล้ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงาน

✔️ มีตัวเลือกให้เลือกจากสนามสอบที่กำหนดไว้ในระบบ เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือศูนย์สอบในพื้นที่ต่าง ๆ

✔️ ระบบจะเปิดให้เลือกสถานที่สอบในช่วงเวลาที่สมัคร และอาจมีการปิดตัวเลือกเมื่อสนามสอบนั้นเต็ม

🎲 กรณีที่หน่วยงานสุ่มสถานที่สอบให้

หากไม่ได้เปิดให้เลือกสถานที่สอบ หน่วยงานจะใช้วิธี สุ่มหรือจัดสรรสนามสอบ โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น

✔️ เลือกสนามสอบใกล้ที่อยู่ตามที่ผู้สมัครกรอกในใบสมัคร

✔️ กระจายผู้เข้าสอบอย่างเท่าเทียมในแต่ละสนามสอบเพื่อความสะดวกในการจัดการ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดสนามสอบ

✔️ จำนวนผู้สมัครสอบ: หากมีผู้สมัครสอบจำนวนมาก การเลือกหรือการจัดสรรสนามสอบจะถูกวางแผนเพื่อให้รองรับผู้สอบทั้งหมดได้

✔️ สถานที่จัดสอบหน่วยงานมักเลือกสถานที่สอบที่มีความพร้อมเช่นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่มีห้องสอบเพียงพอและสะดวกต่อการเดินทาง

✔️ ภูมิภาคหรือเขต: การจัดสอบอาจแบ่งตามเขตหรือพื้นที่ เช่น เขตในกรุงเทพฯ หรือเขตปริมณฑล

การตรวจสอบสถานที่สอบ

✔️ หลังจากสมัครสอบแล้ว หน่วยงานจะประกาศสถานที่สอบให้ผู้เข้าสอบทราบผ่านทาง เว็บไซต์ของหน่วยงานผู้จัดสอบ อีเมลหรือข้อความ

SMS (หากหน่วยงานรองรับ)

✔️ ผู้เข้าสอบต้องตรวจสอบข้อมูล เช่น ชื่อสนามสอบ เลขที่นั่งสอบ วันและเวลาสอบ

ข้อแนะนำเกี่ยวกับสถานที่สอบ

✔️ หากสามารถเลือกสนามสอบได้: เลือกสนามสอบที่ใกล้บ้านหรือเดินทางสะดวกที่สุด ตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง เช่น เส้นทางรถเมล์หรือ

รถไฟฟ้า เพื่อป้องกันการไปสาย

✔️ หากสุ่มหรือจัดสรรให้: ควรตรวจสอบสถานที่สอบล่วงหน้า และสำรวจเส้นทางก่อนวันสอบจริง ไปถึงสถานที่สอบอย่างน้อย 30-60 นาที

ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเร่งรีบ

ตัวอย่างปัญหาและการแก้ไข

✔️ ปัญหา: สถานที่สอบอยู่ไกลหรือเดินทางไม่สะดวก ควรเตรียมแผนเดินทางล่วงหน้า เช่น การจองที่พักใกล้สถานที่สอบ

✔️ ปัญหา: สนามสอบเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ติดตามประกาศจากหน่วยงานอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบข้อมูลใหม่ทันที

หมายเหตุ

การเลือกหรือสุ่มสถานที่สอบในแต่ละปีอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบและแนวทางของหน่วยงานผู้จัดสอบในปีนั้น ๆ

Share !!!
Picture of เขียนโดย   พี่บัส GURU ACADEMY
เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY

เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่1 ของประเทศ

เขียนโดย พี่บัส GURU ACADEMY
เจ้าของสถาบันติวการสอบราชการ ที่ 1 ของประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอร์สติวสอบราชการ ออนไลน์

ที่สุด...แห่งคุณภาพ กว่า 10 ปี

ที่สุด…แห่งผลงานการันตีอันดับ 1

ที่สุด…แห่งความครบถ้วน จัดเต็มทุกวิชา

GURU ACADEMY คอร์สติวสอบราชการ

ประสบการณ์สอนมากกว่า 10 ปี มีลูกศิษย์มากกว่า 20,000 คน

เมนู

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า